“อรมน” ถกผู้บริหารกรมทรัพย์สินทางปัญญา ขับเคลื่อนนโยบาย Quick Big Win 4 เดือน ของ “ศุภจี” ลุยแผนงาน IP 4 All ใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องมือสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการ เตรียมดันขึ้นทะเบียน GI ใหม่อย่างน้อย 5 รายการ นำเทคโนโลยีใช้จดทรัพย์สินทางปัญญา ส่งเสริมงานวิจัยและนวัตกรรม และจัดการสินค้าละเมิด
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกรม เพื่อขับเคลื่อนงานเร่งด่วนตามนโยบาย Quick Big Win ในช่วง 4 เดือน ของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า กรมจะเร่งขับเคลื่อนแผนงาน IP 4 All โดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องมือสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการในทุกภาคส่วน เริ่มตั้งแต่ภาคชุมชนท้องถิ่น ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษาวิจัย และภาคประชาชน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและต่อยอดสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
โดยแนวทางแรก คือ การดำเนินงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อชุมชน (IP for Community) ผ่านกิจกรรมสำคัญ อาทิ การยกระดับสินค้าชุมชนด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) โดยส่งเสริมการขึ้นทะเบียน GI อย่างน้อย 5 สินค้าในช่วง 4 เดือน โดยมีสินค้าท้องถิ่นที่มีศักยภาพ อาทิ ทุเรียนชุมพร กกเหล่าพัฒนา (นครพนม) ไก่เบตงยะลา ผ้าทอนาหมื่นศรี (ตรัง) และมะยงชิดแม่ย่าสุโขทัย เป็นต้น และจะมีการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว รวมทั้งการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มและส่งเสริมช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ
แนวทางที่สอง จะดำเนินงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อธุรกิจ (IP for Business) โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME ให้ได้รับความสะดวกด้านการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งสามารถเข้าถึงงานบริการต่าง ๆ ของกรมได้อย่างรวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น โดยจะมีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการให้บริการ พร้อมปรับปรุงกฎระเบียบหรือกฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้สอดคล้องกับบริบททางการค้าในยุคปัจจุบัน เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ประโยชน์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้ผู้สนใจจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาในกลุ่มนวัตกรรมเพื่ออนาคตของประเทศ เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองแบบเร่งด่วนด้วยระบบ Fast Track ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกและลดระยะเวลาในการจดทะเบียน
ยกตัวอย่าง เช่น 1.สิทธิบัตรการประดิษฐ์ อนุสิทธิบัตร ในสาขานวัตกรรมการแพทย์และสาธารณสุข นวัตกรรมอาหาร นวัตกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ลดระยะเวลาจดทะเบียน จาก 38.5 เดือน เหลือ 12 เดือน และอนุสิทธิบัตรจาก 12 เดือน เหลือ 6 เดือน 2.สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ในสาขานวัตกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดระยะเวลาจดทะเบียนจาก 15 เดือน เหลือ 3 เดือน 3.เครื่องหมายการค้า ในกรณีที่ต้องนำหลักฐานการจดทะเบียนไปแสดงต่อหน่วยราชการอื่น โดยลดระยะเวลาจดทะเบียนจาก 12 เดือน เหลือ 3 เดือน ซึ่งภาพรวมการจดทะเบียนและจดแจ้งข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาในช่วง 9 เดือน ปี 2568 (ม.ค.-ก.ย.) มีสถิติสูงถึง 43,173 คำขอ
แนวทางที่สาม การดำเนินงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อการวิจัยและนวัตกรรม (IP for Innovation) ส่งเสริมการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะงานวิจัยที่ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ วิเคราะห์แนวโน้มการจดสิทธิบัตรและเทรนด์เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะเป็นประโยชน์ต่อนวัตกรและนักวิจัยไทย รวมทั้งทำงานร่วมกับสถาบันการเงินและตลาดทุนส่งเสริมการประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อนำไปต่อยอดการทำธุรกิจและระดมทุน หรือขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
แนวทางที่สี่ การดำเนินงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อผู้บริโภค (IP for Consumer) โดยการบูรณาการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวดในย่านการค้าสำคัญทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ ที่เน้นให้นำมาตรการ Notice & Takedown มาใช้อย่างจริงจัง โดยร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เมื่อได้รับแจ้งว่ามีสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม จะต้องรีบนำออกจากช่องทางการขายในแพลตฟอร์มดังกล่าวทันที เพื่อป้องกันผลกระทบจากสินค้าที่ด้อยคุณภาพและอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยในช่วง 9 เดือน ปี 2568 มีการจับกุมดำเนินคดีกับสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 699 คดี รวมของกลางกว่า 2.5 ล้านชิ้น พร้อมรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ด้านการเคารพสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างระบบนิเวศด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้เข้มแข็ง เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สร้างรายได้ให้ประชาชนทุกระดับอย่างยั่งยืน