“ชาตรามือ” เดินเกมรุกหนัก รับตลาดเครื่องดื่มชาบูมไม่หยุด คลอดแบรด์ใหม่ เป็นครั้งแรก “CTM” รุกสู่ตลาดพรีเมียม สเปเชียลตี้ ตีตลาดคนละเป้าหมายกับ ชาตรามือเดิม นำร่องสาขาแรกที่ เซ็นทรัล พาร์ค เปิดเวทีใหม่ให้ผลิตภัณฑ์ตัวเองในพอร์ตโฟลิโอที่มีมากมายไม่ใช่แค่ชาไทย
CTM ร้านชาแบรนด์ใหม่จากชาตรามือ ร้านชาสไตล์โมเดิร์นที่ชั้น LG โซน Parkside Market ที่ห้าง Central Park Bangkok ที่เพิ่งเปิดตัวไปล่าสุด ไม่ได้ย่อมาจาก Cha Tra Mue แต่แท้จริงแล้วมาจาก Captivating Tea Muse ด้วยคอนเซปต์ ชาที่ไม่ใช่เพียงเครื่องดื่มให้สดชื่น แต่ยังสร้างสุนทรียภาพในการดื่ม ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคน
ท่ามกลางพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มชาที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ปัจจุบันที่มีความหลากหลายในการดื่มชา มากกว่าชาร้อน ชานม ยังรวมถึงไปชารสชาติต่าง ๆ ซึ่งแบรนด์ดังสาขาทั้งไทยและต่างประเทศมีมากมาย การที่เจ้าใหญ่เก่าแก่ในวงการชาไทย อย่างชาตรามือ เปิดแบรนด์ CTM นั้น กำลังสะท้อนอะไรบ้าง
นางสาวพราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช หรือคุณแพรว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิพย์ธารี จำกัด (ร้านที่จำหน่ายเครื่องดื่มชาตรามือ) ทายาทรุ่น 3 ของธุรกิจชาตรามือ เล่าความเป็นมาของ CTM ว่า ชาตรามือคร่ำหวอดอยู่ในวงการชามานานกว่า 80 ปี สิ่งที่เราได้รับเสียงตอบรับจากผู้บริโภคทั้งไทยและต่างประเทศมาตลอดพบว่า ชาที่ผลิตจากประเทศไทย ที่มีทรัพยากรต่าง ๆ อย่างอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้รสชาติของใบชาสัญชาติไทยมีมิติด้านรสชาติที่แตกต่างอย่างเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนสัญชาติไหน ถูกปากคนดื่มชาไม่แพ้ชาติใดในโลกเหมือนกัน
“ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพฤติกรรมของผู้บริโภคในการดื่มชาเปลี่ยนแปลงไป จากสมัยก่อนดื่มชาร้อน หรือเป็นชาเย็นในรูปแบบต่าง ๆ แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงในมิติของการยอมรับรสชาติชาที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น มัทฉะ ที่เป็นประเภทหนึ่งของชาเขียว ดังนั้นเราจึงคิดว่า ชาที่ใช่เวลาที่เหมาะ ถึงเวลาที่ CTM : Captivating Tea Muse เปิดเป็นสาขาแรกที่ ห้าง Central Park Bangkok และมีแผนสำหรับสาขาอื่นๆ ต่อไปภายในปีนี้” แพรว ทายาทรุ่น 3 ชาตรามือ เล่าถึงความเป็นมาแบรนด์ใหม่ ในมุมมองที่่เธอเข้ามาบริหารงานชาตรามือประมาณ 15 ปีแล้ว
แบรนด์ใหม่นี้ ใช้เวลาเตรียมการประมาณปีเศษ ทว่าแนวคิดในการเปิดแบรนด์ใหม่นี้มีมาระยะหนึ่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม แบรนด์ใหม่นี้ทั้งหน้าตา คอนเซ็ปท์ โมเดล รวมถึงการสื่อสาร จะไม่มีการยึดติดกับความเป็นแบรนด์ ชาตรามือ เดิม ไม่ว่าจะไม่มีโลโก้หรือตัวหนังสือชาตรามือปรากฎอยู่กับ CTM โทนสีของแบรนด์ใหม่ก็เป็นสีเขียวทอง แตกต่างจากเดิมที่เป็นโทนน้ำตาล เพราะเป็นสีจุดเด่นของชาไทยนั่นเอง ก็เพราะต้องการที่จะสร้างให้ CTM มีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยตัวเอง ไม่สร้างความสับสนให้กับผู้บริโภค
พูดง่ายๆก็คือ ต้องการให้ ชาตรามือ มีภาพลักษณ์เป็นแบรนด์ออริจินัล ไทยแท้ เป็นแบรนด์ประวัติศาสตร์ ระดับราคา 40 – 45 บาท
ส่วน CTM ต้องการให้มีความเป็นสากลมากขึ้น ร่วมสมัยมากขึ้น และก้าวสู่การเป็นสเปเชียลตี้ มีอะไรที่มากกว่าชาไทย มีราคาเฉลี่ย 70 บาท ถึง 200 กว่าบาทต่อแก้ว
ไม่เพียงแต่ความเป็นแบรนด์ใหม่ แต่จุดเด่นที่น่าจับตาและโดดเด่นของ CTM นอกเหนือจากชารสชาติแปลกใหม่ แพรว เล่าเพิ่มเติมว่า นอกจากความหลากหลายของรสชาติชาที่คัดสรรมาแล้ว ยังเป็นคอนเซปต์ใหม่จากชาตรามือ ที่ผสานความเชี่ยวชาญด้านชาเข้ากับแรงบันดาลใจใหม่ๆ เพราะ
“เราไม่ได้มองชา เป็นเพียงแค่เครื่องดื่ม แต่เป็นประสบการณ์และการถ่ายทอดอารมณ์ เพราะทุกแก้วมีเรื่องราวของตัวเอง ซึ่งแต่ละคนต่างตีความรสชาติที่หลากหลาย และกลายเป็นแรงบันดาลใจที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น บางคนดื่มชารู้สึกผ่อนคลาย บางคนรู้สึกสดชื่น รสชาติ ความรู้สึกสุนทรียภาพเหล่านี้ ที่ CTM ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่เติมสีสันรสชาติให้ลูกค้าของเราในทุก ๆ วันนั่นเอง”
จุดเด่นของ CTM ที่ชาตรามืองัดกลยุทธ์มาเพื่อมัดใจสาวกเครื่องดื่มชาทั้งหลาย ไม่เพียงแต่เรื่องของคุณภาพชาเท่านั้น ทั้งนี้ แพรวเล่าอินไซต์เพิ่มเติมว่า นอกจากเป็นการยกระดับรสชาติและสุนทรีย์แห่งการดื่มชา ด้วยชนิดของชาที่หลากหลายและส่วนผสมที่ลงตัวเท่านั้น แต่มีจุดเด่นคือเป็นร้านเครื่องดื่มชาไทยแบรนด์แรก ๆ ที่มีเครื่องสกัดชาแบบสด ๆ แก้วต่อแก้ว จะยิ่งทำให้ได้รับรสชาติชาที่สดใหม่ สัมผัสถึงรสชาติชาที่ไม่เหมือนใคร ดื่มแล้วสดชื่น พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ ความผ่อนคลาย และสุนทรียภาพตามที่ CTM ต้องการมอบให้ลูกค้าทุกท่านด้วย
'ชา' จากไทยในมุมมองใหม่ ๆ ถูก CTM ตีโจทย์ได้มากมายกว่า 40 เมนู ภายใต้แนวคิด “Muse” ที่เป็นการ ผสาน Base ชาต่างๆ ที่มีคาแรกเตอร์ที่แตกต่าง เข้ากับท้อปปิ้งหรือผลไม้ที่ได้รสชาติอร่อยลงตัวและเป็นรสชาติใหม่ที่แตกต่าง สนุก และยังคงความเป็นตำนานของชาแท้
อีกเหตุผลหนึ่งที่เกิดร้าน CTM ก็คือ ชาตรามือต้องการสร้างเวทีให้กับสินค้าดีๆที่ตัวเองมีอยู่ออกมาจากร้านชาตรามือเดิม
โดยมีเมนู Signature ที่ CTM ภูมิใจนำเสนอ เรียกว่าเป็น Captivating Series มีทั้งหมด 6 เมนูดังนี้
1. ชานมอู่หลงนางงาม ชานมอู่หลงนางงาม หอมกลิ่นใบชาคล้ายน้ำผึ้งและผลไม้สุก
2. ชาจัสมินบลูม ชาเขียวอบดอกมะลิสด หอมกลิ่นมะลิ สดชื่น
3. ชาต้งติ่งเกาลัด เป็นชานม ที่ใช้ใบชาตงติ่ง มีความหอมเข้มข้นและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ท้อปปิ้งด้านล่างเป็นเนื้อเกาลัดบด
4. ชาขาวไอวอรี่นมปั่น ชาขาวหอมใบชาสด ๆ ปั่นนมหอมกลิ่นชา ละมุน ดื่มง่ายถ้าใส่ข้าวโอ๊ตป๊อปก็จะหนึบหนับ ๆ เคี้ยวเพลิน ๆ
5. ชาไทยซีทีเอ็มเครมบรูเล่ ชาไทย CTM ที่มีกลิ่นหอมของชาไทยเข้มข้น ท็อปด้วยครีมชีส เบิร์นไฟ รสละมุน
6. ชาส้มโอทับทิมสยาม ชามะลิผสมกับส้มโอทับทิมสยาม รสชาติเปรี้ยวหวาน สดชื่น มีเนื้อส้มโอใส่ในทุกแก้ว
ท่ามกลางเศรษฐกิจซบเซา แต่ในฐานะผู้บริหารชาตรามือวิเคราะห์การตลาดว่า ธุรกิจในวงการตลาดอาหารเครื่องดื่ม ก็ยังคงไปต่อได้ เพราะผู้บริโภคยังต้องบริโภค แม้ว่าจะมีหลายแบรนด์ทั้งไทยและต่างประเทศในวงการเครื่องดื่มชา ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้ตลาดขยายและเติบโตขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาไตรมาสสุดท้ายของปี ยอดขายน่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เพราะการดื่มชา ถือเป็นการเฉลิมฉลองที่เข้าถึงง่ายด้วย และเชื่อว่า มีโอกาสเติบโตได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลดีทั้งกับผู้บริโภคที่มีทางเลือกที่หลากหลายและผู้ผลิตชาได้เติบโตด้วย ซึ่งทาง CTM เตรียมขยายสาขาภายในปีนี้อีกเช่นกัน
บอสใหญ่ ชาตรามือ ยืนยันว่า ชาตรามือจะมีการขยายสาขาใหม่ต่อเนื่องไม่หยุดละ โดยในแต่ละปีจะเปิดสาขาใหม่ในไทยเฉลี่ย 30 สาขาต่อปี ส่วนในต่างประเทศไม่ต่ำกว่าปีละ 10 สาขา
ส่วนแบรนด์ CTM ยังคงเป็นช่วงของการเริ่มต้นสร้างแบรนด์เท่านั้น
ปัจจุบันชาตรามือมีสาขากระจายอยู่ในประเทศไทยรวม 225 สาขา และในต่างประเทศเปิดแล้ว 130 สาขาใน 13 ประเทศ ด้วยรูปแบบการขายแฟรนไชส์ ซึ่งสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ 30% แต่มีเป้าหมายระยะยาวเพิ่มเป็น 90% เพื่อให้สมกับเป็นโกลบอลแบรนด์
ปัจจุบันชาตรามือมีสาขาในประเทศ 225 สาขา และขยายไปต่างประเทศ 130 สาขาใน 13 ประเทศ ด้วยรูปแบบการให้สิทธิ์ วิสัยทัศน์ระยะยาวของบริษัทคือการขยายสัดส่วนยอดขายต่างประเทศให้ถึง 90% จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 30% เนื่องจากเห็นว่าชาไทยได้รับความนิยมจากชาวต่างป แม้ว่าขณะนี้ความนิยมและการแข่งขันในธุรกิจชา ไม่ว่าจะสัญชาติไทยด้วยกันหรือชาสัญชาติจีนที่มาเปิดในไทยอย่างแพร่หลาย แพรว มองการแข่งขันในตลาดนี้ว่า เป็นเรื่องดีกับผู้บริโภคที่มีเครื่องดื่มชาให้เลือกได้หลากหลาย และในฐานะที่ชาตรามือ เชี่ยวชาญด้านชามากว่า 80 ปี รู้จักและเข้าใจในชาเป็นอย่างดี ตั้งแต่ระดับเกษตรกรไทยปลูกไปจนถึงกระบวนการผลิต และนำมาสู่การปรุงเป็นเมนูเครื่องดื่ม จึงภูมิใจในการนำชาที่เป็นผลผลิตของเกษตรกรชาวไทย นำสิ่งดี ๆ มาสู่ผู้บริโภคคนไทยด้วยกันได้ลิ้มลอง
“เป็นโอกาสอันดีที่ผู้บริโภคไทยจะได้เปิดใจ และลิ้มลอง CTM ชาแปลกใหม่จากฝีมือคนไทย ได้ดื่มด่ำชาสัญชาติไทยที่ไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อน รสชาติเอกลักษณ์เฉพาะตัวผลิตจากไร่ชาในประเทศ ช่วยเกษตรกรไทยอย่างแท้จริง เว้นแต่แค่เมนูชาเขียวที่คัดเกรด Ceremonial จากเมือง นิชิโอะและยาเมะ แหล่งผลิตชามัทฉะชื่อดังของญี่ปุ่น เนื่องจากต้องการให้เมนูนี้มีความอูมามิสูง ที่เราคัดสรรจากต้นตำรับ เพื่อให้ผู้บริโภคไทยได้สัมผัสความอร่อยอย่างมีคุณภาพ”
อีกความเคลื่อนไหวของชาตรามือ คือ การรุกตลาดช่องทางรีเทล ด้วยการเตรียมเปิดและวางจำหน่ายเครื่องดื่ม คอมบูฉะ (Kombucha) แบรนด์ชาตรามือ แบบพร้อมดื่ม (Ready to Drink ) ราคาเริ่มต้น 35 บาท วางจำหน่ายในช่องทางโมเดิร์นเทรด