กทม.เดินหน้าขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน 7.5 กม. วงเงิน 3-4 หมื่นล้านบาท เตรียมรับฟังความเห็นเอกชน วางแนว PPP กาง 3 รูปแบบ “ทำเอง-เจรจา BTS-เปิดประมูล” ตั้งเป้าเปิดปี 74
รายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 19 ส.ค. 2568 นี้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักการจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานครจะจัดการประชุมสัมมนาประชาสัมพันธ์โครงการและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงทุนโครงการหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน (Market Sounding Stakeholder Forum) โครงการศึกษาและวิเคราะห์ โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนต่อขยายสายสีลม (ช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน) ระยะทาง 7.5 กม. ประเมินมูลค่าโครงการ 30,000-40,000 ล้านบาท ให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562) ที่ห้องพุทธรักษาราชพฤกษ์ฮอลล์ แอนด์ เวิร์กสเปซ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวสายสีลม ช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน วงเงินงบประมาณ 27 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 ปี วัตถุประสงค์ เนื่องจาก กทม.มีนโยบายจะลงทุุนโครงการฯ ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 ซึ่งตามขั้นตอนของกฎหมายร่วมทุนฯ จะต้องทบทวนผลการศึกษาเดิมที่มีทั้งการลงทุน ต้นทุน รวมถึงจะต้องรับฟังความเห็นเอกชน (Market Sounding) ด้วย
ทั้งนี้ ตามรายงานการศึกษา PPP แนวทางการลงทุนโครงการมี 3 รูปแบบได้แก่ 1. กทม.ทำเอง 2. เจรจากับ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานรายเดิมเป็นผู้ดำเนินการ และ 3. เปิดประกาศประกวดราคา PPP หาผู้ดำเนินการ
โดยแนวทางที่มีความเป็นไปได้และสอดคล้องกับสถานการณ์ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งโครงข่ายในปัจจุบัน คือ อาจต้องกำหนดให้มีเงื่อนไขจ้าง BTSC เดินรถตามสัญญาจ้างเดินรถในช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน ไปก่อนจนถึงปี 2585 ซึ่งสัญญาจ้างเดินรถโครงข่ายสายสีลมส่วนต่อขยาย 1 (สะพานตากสิน-บางหว้า) จะสิ้นสุด ทั้งนี้จะต้องพิจารณาแนวทางเจรจา BTSC ดำเนินการเดินรถต่อได้หรือไม่ และรูปแบบการลงทุนโครงสร้างและระบบจะเป็นอย่างไร
หลักการเบื้องต้น กรณีเป็น PPP Net Cost (ภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน โดยในขณะที่ภาคเอกชนรับผิดชอบงานส่วนที่เหลือทั้งหมด ได้แก่ การออกแบบรายละเอียดและการก่อสร้าง) รูปแบบเหมือนรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองที่ให้เอกชนสร้างไปก่อน แล้วรัฐบาลผ่อนจ่ายทีหลังจนครบระยะเวลาสัญญา
สำหรับขั้นตอนหลักการศึกษาแล้วเสร็จ จะเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (บอร์ด PPP) พิจารณาให้ความเห็นชอบ จากนั้นจะส่งไปที่กระทรวงมหาดไทยเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการ จากนั้นจึงจะเริ่มกระบวนการหาผู้รับจ้างต่อไป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลารวมประมาณ 3 ปี และใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2-3 ปี คาดแล้วเสร็จประมาณปี 2574 ยังไม่รวมขั้นตอนการเสนอรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ คชก.
รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของแนวเส้นทางก่อสร้างนั้นจะใช้พื้นที่ถนนราชพฤกษ์เป็นหลัก ซึ่ง กทม.ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่จากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในฐานะหน่วยงานเจ้าของพื้นที่แล้ว โดยจะมีสร้างสถานีจ่ายไฟบริเวณใกล้ๆ กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวบางหว้าด้วย
สำหรับผลการศึกษาความเหมาะสมและรายละเอียดเบื้องต้นเมื่อปี 2558 จะเป็นทางวิ่งยกระดับจำนวน 2 ทาง สูงประมาณ 16.6 เมตร แนวเส้นทางเริ่มต้นที่จุดเชื่อมต่อโรงจอดรถของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายบริเวณสถานีบางหว้า ไปตามทิศเหนือ ตามแนวเกาะกลางถนนราชพฤกษ์ ผ่านทางแยกตัดถนนบางแวก (ซ.จรัญสนิทวงศ์ 13) ผ่านทางแยกถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 จากนั้นจะยกระดับขึ้นไปเป็น 26.6 เมตร ข้ามทางแยกบรมราชชนนี และยกระดับขึ้นไปที่ 31.6 เมตร ข้ามทางด่วนประจิมรัถยา (ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก) และสิ้นสุดที่บริเวณทางลาดลงของสะพานข้ามทางรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ระยะทางรวม 7.5 กม. จำนวน 6 สถานี ประกอบด้วย สถานีบางหว้า, บางแวก, บางเชือกหนัง, บางพรม, อินทราวาส, บรมราชชนนี และตลิ่งชัน