“คมนาคม”สั่งสอบข้อเท็จจริงสาเหตุ อุโมงค์รถไฟ”ไทย-จีน”ถล่ม และปมจ้างช่วง ผู้รับเหมาจีนภายใน 5 วัน เร่งวางเกณฑ์สมุดพกตัดคะแนนผู้รับเหมา จบใน 2 เดือนก่อนหารือกรมบัญชีกลาง
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในระหว่างก่อสร้างโครงการต่างๆ บ่อยนั้น ซึ่งล่าสุดคืออุโมงค์ รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่อำเภอปากช่อง ถล่ม ระหว่างก่อสร้าง ทำให้คนงานก่อสร้าง ติดอยู่ภายใน ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 2567 ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ให้แต่งตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงโดยเร็วแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีประเด็นผู้รับเหมาจีนเข้ามารับช่วงงานขุดเจาะอุโมงค์รถไฟนั้นนายสุริยะกล่าวว่า เบื้องต้นเท่าที่ทราบผู้รับเหมาคู่สัญญา กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้น มีการซับงานต่อให้กับ บริษัทจีนเข้ามาทำงาน ซึ่งเรื่องการซับงานก่อนนั้น ให้หน่วยงานและผู้ควบคุมดูแลงานต้องเข้มข้นมากขึ้น
@เตรียมออกสมุดพกคุมผู้รับเหมา เร่งวางเกณฑ์ตัดคะแนนใน 2 เดือน
นายสุริยะกล่าวว่า นอกจากนี้ได้สั่งการให้ เร่งรัดการจัดทำสมุดพกตัดคะแนนผู้รับเหมา โดยจะศึกษารายละเอียด โดยเก็บประวัติการทำงานของผู้รับเหมาแต่ละรายแล้ว ว่ามีจำนวนอุบัติเหตุ จำนวนผู้บาดเจ็บ จำนวนผู้เสียชีวิต กี่ครั้งกี่ราย หรือกรณีการทำงานล่าช้า แต่ละหัวข้อ จะถูกตัดคะแนนเท่าไร และเมื่อถูกตัดคะแนนไปถึงเท่าไร จึงจะถึงเกณฑ์ห้ามประมูลงาน โดยศึกษา รายละเอียดให้ชัดเจนภายใน 2 เดือน จากนั้นนำรายละเอียดไปหารือกับกรมบัญชีกลาง ที่ก็มีกฎเกณฑ์ควบคุมผู้รับเหมาเช่นกัน เรื่องนี้ต้องทำให้เป็นรูปธรรม ไม่เช่นนั้นปล่อยไปเรื่อยๆ ผู้รับเหมาก็ยังทำเหมือนเดิม เพราะไม่มีผลบังคับใช้จริงจัง
@สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและปมจ้างช่วงผู้รับเหมาจีนภายใน 5 วัน
ด้านนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เปิดเผยว่า ล่าสุดวันที่ 27 ส.ค.2567 ยังพบสัญญาณชีพของทั้ง 3 คนอยู่ภายใน ถือว่าเป็นข่าวดี ซึ่งทีมกู้ภัยของการรถไฟฯ และมีทีมกู้ภัย Hunan Sunshine จากประเทศจีนเข้ามาเสริม ประเมินว่าจะสามารถช่วยเหลือคนแรกออกได้ในเร็วๆนี้
ส่วนกรณีที่มีประเด็นผู้รับเหมาจีนเข้ามารับช่วงงานต่อจาก บริษัท เนาวรัตน์ พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นคู่สัญญา 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง กับการรถไฟฯนั้น เป็นการดำเนินงานถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ตอนนี้เรื่องเร่งด่วนคือ ให้ทุกฝ่ายพยายามอย่างสุดความสามารถในการช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ด้านในก่อน ส่วนมาตรการสัญญา ข้อกำหนดของผู้รับเหมามีระบุในข้อกำหนดชัดเจนอยู่แล้ว และต้องมีการดำเนินการตามมาตรการอยู่แล้ว โดยจะต้องมีการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น
โดยตนได้สั่งการให้การรถไฟฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งรายงานสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ รวมถึง ดำเนินการปรับปรุงความปลอดภัย ให้เป็นไปตามมาตรฐาน แนวทาง มาตรการ ระเบียบ ข้อกำหนด คู่มือการก่อสร้าง เอกสารที่แบบในสัญญาก่อสร้าง และให้ตรวจสอบสัญญาจ้างในส่วนของความรับผิดชอบการประกันภัย มาตรการเยียวยาให้กับผู้เสียหาย โดยให้รายงานผลภายใน 5 วัน
สำหรับข้อสั่งการให้การรถไฟฯเร่งดำเนินการคือ
1.ตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งรายงานสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรวมถึงดำเนินการปรับปรุงความปลอดภัยให้เป็นไปตามมาตรฐานแนวทางมาตรการระเบียบข้อกำหนดคู่มือการก่อสร้างและเอกสารที่แนบในสัญญาก่อสร้าง
2.ประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบตามกฎหมายเพื่อกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือและแผนปฏิบัติการพิเศษค้นหาและกู้ภัยซึ่งต้องเป็นไปตามหลักวิศวกรรมหลักความปลอดภัยและเป็นไปตามกฎหมายกำหนดทั้งนี้ต้องคำเนินการด้วยความระมัดระวังป้องกันการสูญเสียซ้ำชัยซ้ำข้อม
3.ตรวจสอบสัญญาจ้างก่อสร้างในส่วนของความรับผิดชอบประกันภัยรวมทั้งมาตรการเยียวยาให้กับผู้เสียหาย
4.สั่งการผู้รับจ้างและที่ปรึกษาควบคุมงานที่อยู่ระหว่างดำเนินโครงการก่อสร้างของรฟท.ทั่วประเทศตรวจสอบความปลอดภัยโครงการก่อสร้างกรณีพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายให้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการทราบเพื่อดำเนินการปรับปรุงความปลอดภัยโดยเร็วโดยเฉพาะโครงการที่มีการชุดเจาะอุโมงค์ให้เฝ้าระวังความปลอดภัยเป็นพิเศษโดยใช้มาตรการความปลอดภัยสูงสุด
“เรื่องการซับช่วงงานนั้น มีสัญญา มีลายลักษณ์อักษรอยู่แล้ว ขอเวลาในการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องการปฎิบัติตามสัญญาจ้างงาน และคุณภาพของงานก่อสร้าง ตอนนี้ยังไม่มีข้อเท็จจริง หากพูดไปก่อนจะเกิดเป็นการกล่าวหาได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กร บริษัท ที่ถูกอ้างถึงได้ หากได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนแล้ว จะรีบชี้แจงต่อไป”
รวมทั้ง สั่งการให้ตรวจสอบอุโมงค์รถไฟที่กำลังขุดเจาะอยู่ทั่วประเทศ ในเรื่องความปลอดภัยของทุกโครงการอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก เพราะตอนนี้ มีฝนตกและมีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมาก โดยมุ่งเน้นให้คำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้ปฏิบัติงาน และให้ยึดถือการปฏิบัติงานตามคู่มือมาตรฐานความปลอดภัยเป็นสำคัญ และหากเกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีกจะมีบทลงโทษขั้นสูงสุดต่อไป