xs
xsm
sm
md
lg

“เศรษฐา” วางเป้าปี 70 ไทยขึ้นแท่นศูนย์กลางฮาลาลในอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เศรษฐา” นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการฮาลาลนัดแรก หวังไทยก้าวสู่ศูนย์กลางฮาลาลในอาเซียนภายในปี 2570 “พิมพ์ภัทรา” ชี้เป็นโอกาสที่จะปักหมุดประเทศไทยให้เป็นแหล่งผลิตสินค้าฮาลาลของโลกได้

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ (กอฮช.) เป็นประธานการประชุม กอฮช. ครั้งที่ 1/2567 โดยมีนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมฮาลาลเข้าร่วมประชุมเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567

นายเศรษฐากล่าวว่า ตนได้ลงนามในคำสั่งจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาล เพื่อกําหนดนโยบายและแนวทางในการพัฒนาสินค้าฮาลาล โดยเชื่อมโยงเอกลักษณ์ Soft Power ของไทย รวมถึงบูรณาการแนวทาง มาตรการ แผนงานด้านการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศให้เป็นผู้นําด้านการผลิตและการส่งออกสินค้าฮาลาลในภูมิภาคนี้ภายในปี 2570


จึงอยากเห็นการจัดตั้งหน่วยงานที่มีบทบาทภารกิจในการเป็นหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบเกี่ยวกับอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศอย่างครบวงจร โดยมีภารกิจขับเคลื่อนนโยบายและแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทยให้บรรลุตามเป้าหมาย ติดตามและประเมินผลการดําเนินงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอยากเห็นศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทยที่ได้ทราบว่ามีการจัดตั้งแล้ว มีโครงสร้างการบริหาร กําลังคน รวมถึงงบประมาณที่ชัดเจน ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม

“ประเด็นสําคัญที่อยากฝากทุกท่านให้ความสําคัญเป็นพิเศษ ได้แก่ การพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลในพื้นที่ภาคใต้ โดยผลักดันการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลในพื้นที่ภาคใต้ของไทย โดยจะสนับสนุนการสร้างนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลในพื้นที่ภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อผลักดันให้เกิดการจ้างงาน การสร้างอาชีพ การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานการผลิตและการบริการในพื้นที่ภาคใต้ และผลักดันให้ภาคใต้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมฮาลาล”


ด้านนางสาวพิมพ์ภัทรากล่าวเสริมว่า อุตสาหกรรมฮาลาลเป็นหนี่งอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพ และมีมาตรฐานในการผลิต สามารถกระจายรายได้ กระจายโอกาส สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามแนวทางที่ กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ในการเร่งผลักดันให้เกิดศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาล ช่วยสนับสนุนและส่งเสริมการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ

ขั้นตอนต่อไปจะนำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ เสนอต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อให้ความเห็นชอบ โดยแผนปฏิบัติการฯ ได้กำหนดผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลเป้าหมาย (ระยะแรก) ไว้ 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. อาหารฮาลาล เช่น เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป อาหารทะเล อาหารพร้อมรับประทาน อาหารฮาลาลโดยธรรมชาติ และอาหารมุสลิมรุ่นใหม่ 2. แฟชั่นฮาลาล ประกอบด้วย สิ่งทอ อัญมณี เครื่องหนัง 3. ยา สมุนไพร เครื่องสำอางฮาลาล 4. โกโก้และผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง 5. บริการและการท่องเที่ยวฮาลาล

ทั้งนี้ ภายใต้ (ร่าง) แผนปฎิบัติการฯ ปี 2567-2570 ได้วางกรอบใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1,230 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 มาตรการ คือ 1. การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทานการผลิตฮาลาลไทย 2.  การพัฒนาการผลิตได้มาตรฐานอุตสาหกรรมฮาลาลไทย 3. การยกระดับปัจจัยแวดล้อมอุตสาหกรรมฮาลาลไทย โดยมีโครงการที่เป็น Quick Win (พ.ศ. 2567-2568) ใช้งบประมาณ 95 ล้านบาท ในการดำเนินงาน ได้แก่ สร้างการรับรู้ศักยภาพสินค้าและบริการอาหารฮาลาลไทย การขยายตลาดสินค้าและบริการอาหารฮาลาลไทยในประเทศและต่างประเทศ การจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย และการจัดทำระบบ Halal IU ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลรายงานเชิงลึกและวิเคราะห์ตลาด เป็นต้น

“มูลค่าของตลาดการค้าอาหารฮาลาลโลกในปี 2567 อยู่ที่ 2.60 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 5.28 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2573 หรือเพิ่มขึ้น 12.5% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรมุสลิมโลกและการขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศมุสลิม นับเป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยต้องเข้าไปมีส่วนร่วม และเป็นการปักหมุดประเทศไทย ให้โลกได้รู้ว่าเรามีศักยภาพในการผลิตสินค้าฮาลาล" รมว.อุตสาหกรรมกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น