“วีเอท” ส่อวืดชนะประมูลข้าว 10 ปี มีแนวโน้มถูกคัดออก หลังผลสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติหลายอย่าง เผย อคส. รอแค่เอกสารยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนประกาศจะตัดสิทธิ์หรือไม่ จากนั้นจะเปิดให้ลำดับถัดไปมาเจรจาต่อรอง “ธนสรร ไรซ์” จ่อเข้าวินแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาการประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาล หรือข้าว 10 ปี ว่า ขณะนี้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้รายงานผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เสนอซื้อข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล หรือข้าว 10 ปี ให้กับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทราบในเบื้องต้นถึงผลการตรวจสอบผู้ยื่นประมูลซื้อข้าว ทั้ง 6 รายแล้ว แต่ที่ยังไม่สามารถประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลในครั้งนี้ได้ เนื่องจาก อคส. ต้องรอเอกสารยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณา ทำให้เกิดความล่าช้า ยังไม่สามารถประกาศผลตามที่กำหนดไว้ในวันที่ 5 ก.ค.2567 ที่ผ่านมาได้ เพราะเมื่อตรวจสอบเชิงลึก พบว่า บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ยื่นเสนอราคาประมูลสูงสุด พบความผิดปกติในหลายเรื่อง และมีแนวโน้มที่จะไม่ผ่านการพิจารณาและไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลครั้งนี้ และเมื่อได้ผลการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาครบถ้วนแล้ว อคส.จะสรุปผลทันที
ทัังนี้ ขั้นตอนหลังจาก อคส. สรุปผลแล้ว จะมีความชัดเจนว่า บริษัทรายใดไม่ผ่านการพิจารณา และรายใดผ่านการพิจารณา จากนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอนของทีโออาร์ คือ เรียกบริษัทรายที่ยื่นราคาประมูลในลำดับถัดไปมาเจรจาต่อรอง ซึ่ง ณ ตอนนี้ จะมี 5 ราย คือ บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้ง เฉลี่ย 18,019.11 บาท/ตัน คลังสินค้ากิตติชัย เฉลี่ย 18,001.99 บาท/ตัน บริษัท เอส.เอส.เอ็ม.อาร์.การเกษตร จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้งคลังเดียว เฉลี่ย 16,710.07 บาท/ตัน บริษัท ทรัพย์แสงทองไรซ์ จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้ง เฉลี่ย 12,208.81 บาท/ตัน คลังสินค้ากิตติชัย เฉลี่ย 15,617.35 บาท/ตัน บริษัท สหธัญ จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้งคลังเดียว เฉลี่ย 18,690 บาท/ตัน และ บริษัท บี เอ็น เค การเกษตร 2024 จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้ง เฉลี่ย 16 บาท/กก. คลังสินค้ากิตติชัย เฉลี่ย 16 บาท/กก.
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลครั้งนี้ ถูกโยงเป็นเรื่องประเด็นการเมือง มีการตั้งข้อสงสัยในบริษัท วีเอท หลายเรื่อง ทั้งเรื่องทุนจดทะเบียน เงินทุนหมุนเวียน และการเป็นนอมินี นายภูมิธรรมจึงไม่ปล่อยผ่าน ได้เข้าไปกำกับดูแลให้การขายข้าวสามารถตอบทุกคำถามของสังคมได้ จนทำให้เกิดความล่าช้า แม้ว่าบริษัท วีเอท จะยื่นราคาสูงสุดถึงตันละ 19,070 บาท หรือ กก.ละ 19.07 บาท และเพิ่มราคาให้เป็นตันละ 19,073 บาท หรือ กก.ละ 19.073 บาท ได้เงินเข้ารัฐกว่า 286 ล้านบาทก็ตาม
สำหรับการประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลครั้งนี้ มีผู้สนใจยื่นซองคุณสมบัติ จำนวน 8 ราย ในวันที่ 10 มิ.ย.2567 และวันที่ 13 มิ.ย.2567 อคส.ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติ 7 ราย ตก 1 ราย จากนั้นเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 17 มิ.ย.2567 มีผู้ยื่นเสนอราคา 6 ราย โดยบริษัท วีเอท ให้ราคาสูงสุด และกำหนดประกาศผลการประมูลวันที่ 21 มิ.ย.2567 แต่นายภูมิธรรม สั่งการให้พิจารณาให้รอบคอบ เพราะมีการตั้งข้อสังเกต ข้อสงสัยในบริษัท วีเอท และต่อมา วันที่ 24 มิ.ย.2567 นายภูมิธรรม ได้ทำหนังสือถึงรักษาการ ผอ.อคส. ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบให้ชัดเจน มีระยะเวลา 7 วัน และครบกำหนดวันที่ 2 ก.ค.2567 ที่ผ่านมา จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ว่า จะทราบผลว่าขายข้าวล็อตนี้ได้หรือไม่ ในวันที่ 4 ก.ค.2567 แต่ก็ต้องมาเลื่อนอีกครั้ง และระบุว่า จะทราบผลในวันที่ 5 ก.ค.2567 แต่ก็ต้องมาเลื่อนอีกครั้ง โดยจากนี้ ต้องจับตาดูว่า อคส. จะประกาศผลการตรวจสอบเมื่อใด และจากนั้น ถึงจะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปตามที่กำหนดไว้ในทีโออาร์การประมูล