“ภูมิธรรม” เผย อคส. รายงานเบื้องต้น เลื่อนสรุปผลประมูลข้าว เหตุกำลังดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติ และหาคำตอบประเด็นข้อสงสัย เพื่อให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจน โปร่งใส ตอบสังคมได้ ขีดเส้นอย่างช้า 24 มิ.ย.นี้ รู้ผล ย้ำถ้าสิ้นข้อสงสัยแล้ว ต้องดูที่ราคา มากขึ้นได้ น้อยกว่าเดิมไม่ได้ เปิดทางรายที่ 2 และ 3 เสียบแทน หากที่ 1 มีปัญหา ไม่อยากประมูลใหม่หลายรอบ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล จำนวน 1.5 หมื่นตัน ที่ตามกำหนดการต้องประกาศผลในวันที่ 21 มิ.ย.2567 ว่า วันนี้เป็นวันที่สรุปว่าใครจะเป็นผู้ที่ประมูลได้ โดยสิ่งที่ประกาศออกมาครั้งแรก คือ ราคาสูงที่สุด แต่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ตามที่มีการเปิดเผยข่าว หรือมีข้อสงสัยหลายประเด็นเกี่ยวข้องกับการประมูลครั้งนี้ ทั้งว่ามีการ่จัดฉาก สร้างนอมินีหรือไม่ และยังมีสื่อมวลชนสงสัยว่าบริษัทที่ประมูล มีการจดทะเบียนเมื่อ ปี 2564 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท แต่การทำธุรกิจมีเงินหมุนเวียนแค่ 1 ล้านบาท สังคมก็เลยสงสัยว่าเงินจดทะเบียนเท่านี้ และงบดุล 1 ล้านบาท จะมีศักยภาพเพียงพอมาประมูลข้าว 285 ล้านบาทจริงหรือไม่ จึงต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ทำให้โปรงใสและสิ้นความคลางแคลงใจของสังคม
“วันนี้ครบกำหนด ได้รับรายงานจากองค์การคลังสินค้าเบื้องต้นว่าได้ตรวจสอบและกำลังดำเนินการเรื่องนี้ โดยจะมีผลสรุปอย่างช้า คือ วันจันทร์ 24 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ เพราะกำลังนำข้อสงสัยกับข้อสังเกตไปตรวจสอบว่าจริงเท็จเป็นอย่างไร โดยต้องการให้การประมูลข้าวครั้งนี้จบลงอย่างสง่างาม โปร่งใส ตรวจสอบได้”
ทั้งนี้ ตนยังได้สั่งการให้อธิบดีกรมการค้าภายใน และรักษาการ ผู้อำนวยการ อคส. ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ก็เข้าไปดูแล โดยถ้าไม่มีปัญหา ก็จะประกาศได้เลย แต่ถ้ามีปัญหา ก็จะไปดูว่าปัญหาคืออะไร แล้วจะประกาศให้เร็วที่สุด ต้องดูคุณสมบัติของเขาและข้อสงสัยว่าคลี่คลายหมดหรือยัง ถ้าคลี่คลายแล้ว ก็ดูที่ราคา ต่อรองราคา ถ้ามากขึ้นได้ แต่น้อยกว่าเดิมไม่ได้ ต้องเอาราคาที่เป็นมาตรฐาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่ได้บริษัทที่ 1 จะเรียกลำดับถัดไปเข้ามาแทนไหม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าทีโออาร์เขียนแบบนี้หรือเปล่า แต่เข้าใจว่าน่าจะเรียกลำดับที่ 2 มาเจรจา แต่ต้องเคลียร์อันดับที่ 1 ให้ชัดเจนเรียบร้อยก่อน ถ้าลำดับที่ 2 ไม่ได้ ก็ต้องไปลำดับที่ 3 เพื่อเปิดทางให้มีการแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้น ไม่ต้องประมูลใหม่หลายรอบ ถ้า 3 บริษัท ยังไม่สามารถยุติได้ ไม่ได้ราคาที่เหมาะสม ก็ต้องเปิดประมูลใหม่ ต้องอยู่ที่ความเป็นจริง คณะกรรมการจะเป็นคนพิจารณา และเสนอมา ต้องดูความเป็นจริง อย่าไปคาดการณ์