"สุริยะ" โต้ "ฐากร ตัณฑสิทธิ์" อ้างมีอธิบดีกรมฯ ในคมนาคมเรียกรับส่วยจากผู้รับเหมา-ข้าราชการ ชี้ข้อมูลไม่ชัดเจน ตั้งข้อสังเกตเคยเป็นข้าราชการยุคเก่า เจอเรียกเก็บส่วยแต่กลับนิ่งไม่เปิดเผย ท้าพาผู้เสียหายมาชี้แจง ลั่นหากผิดจริงสั่งปลดทันที และพร้อมชี้แจงในสภาฯ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย ได้กล่าวอ้างถึงมีข้าราชการระดับสูง ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมฯ หนึ่งในสังกัดกระทรวงคมนาคม เรียกรับผลประโยชน์จากผู้รับเหมาที่ชนะประมูลในอัตรา 12% จากมูลค่างานทั้งหมด พร้อมทั้งสั่งการให้ผู้อำนวยการระดับสำนักแต่ละพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการ โดยแต่ละพื้นที่จะต้องส่งผลประโยชน์ตั้งแต่เดือน พ.ค.-มิ.ย. 2567 อย่างน้อยมูลค่า 20 ล้านบาท โดยตั้งเป้าเรียกรับผลประโยชน์รวม 1,000 ล้านบาทนั้น
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมพร้อมเปิดรับฟังทุกปัญหา และข้อร้องเรียน หรือเบาะแสต่างๆ เพื่อนำมาพิจารณา และค้นหาข้อเท็จจริง ส่วนจากการกล่าวอ้างดังกล่าวยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน แต่ในฐานะที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต้องขอขอบคุณสำหรับข้อมูล ซึ่งจะนำข้อมูลที่ได้รับมานั้นไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้ให้นโยบายสำคัญไว้ต่อรัฐมนตรีและข้าราชการทุกคนทุกหน่วยงานว่าต้องไม่มีการทุจริต และต้องดำเนินงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง
นายสุริยะกล่าวต่อว่า จากข้อมูลที่นายฐากรกล่าวอ้างมานั้นมีหลายประเด็นที่ยังเป็นข้อสังเกต คือ นายฐากรเคยทำหน้าที่อยู่ในสำนักงบประมาณกว่า 17-18 ปี และยังเคยดำเนินงานในกระทรวงคมนาคมในยุคนั้นด้วย และจากที่ระบุว่าในสมัยนั้นมีการเรียกเก็บส่วยอย่างที่กล่าวว่าคือ ข้าราชการ 6% นักการเมือง 6% แต่ทำไมไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น และเหตุใดจึงไม่ออกมาเผยความจริงต่อสาธารณชน
นอกจากนี้ ในประเด็นที่นายฐากรระบุว่าผู้อำนวยการสำนักทางหลวง และผู้อำนวยการเขตทางหลวง รวม 2 คน ซึ่งนายฐากรเคยดำเนินงานในกระทรวงคมนาคม ควรรู้ว่าทั้ง 2 ตำแหน่งดังกล่าวเป็นบุคคลคนเดียวกัน จึงมองว่าหลายสิ่งที่ระบุและกล่าวอ้างมานั้นยังไม่ตรงข้อเท็จจริง ขณะเดียวกัน กรณีที่มีผู้อำนวยการสำนักทางหลวงไปร้องเรียนที่พรรคไทยสร้างไทยนั้น โดยตนต้องการให้ผู้อำนวยการสำนักทางหลวงท่านดังกล่าวมาชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์อย่างไร และหากเป็นความจริง ตนจะสั่งปลดอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในทันที
“เมื่อนายกรัฐมนตรีให้นโยบายมา ก็ได้กำชับไปตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวงคมนาคม ยันอธิบดี ซึ่งท่านปลัดฯ ก็ช่วยสอดส่องเรื่องนี้ด้วย เรื่องของพฤติกรรมทุจริตที่รัฐบาลนี้รับไม่ได้ พร้อมระบุว่าบุคคลในหน่วยงานภายใต้สังกัดที่ผมดูแลอยู่คงจะคุมทุกคนไม่ได้ 100% แต่ถ้ามีพฤติกรรมที่ส่งมาและมีข้อมูลชัดเจน ผมก็คงไม่ปล่อยไว้ ต้องมีการดำเนินการ ขณะเดียวกันก็อยากให้คนที่กล่าวหาคิดถึงขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ที่เขาทำงานก็จะเสียกำลังใจ ถ้าไปกล่าวหาแล้วไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน” นายสุริยะกล่าว
นายสุริยะกล่าวอีกว่า จากกรณีที่นายฐากรกล่าวหามานั้นจะไปดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริง และพร้อมชี้แจงต่อนายกรัฐมนตรี เนื่องจากปฏิบัติตามนโยบายนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากกรณีดังกล่าวถูกหยิบยกมาในการอภิปรายพิจารณางบประมาณฯ นั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหา และเชื่อว่าสามารถชี้แจงได้ อีกทั้งตนยังได้สั่งการตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวงฯ ไปจนถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนว่าต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้