“พาณิชย์” พร้อมดูแลผลไม้เหนือ-ใต้ ดึงผู้ส่งออก ผู้รวบรวม ล้ง เข้ารับซื้อ

กรมการค้าภายในเตรียมมาตรการรับมือผลไม้ภาคเหนือ และภาคใต้ไว้พร้อมแล้ว หลังผลไม้ภาคตะวันออกกำลังสิ้นสุดฤดูกาล ประสานผู้ส่งออก ผู้รวบรวม ล้ง เตรียมเข้าไปรับซื้อ ทำสัญญาล่วงหน้า ทั้งลำไย ทุเรียน มังคุด และเร่งระบายผลผลิตทุกช่องทาง มั่นใจดูแลเกษตรกรขายผลผลิตได้ราคาเป็นธรรม ส่วนผลไม้ภาคตะวันออกถือเป็นปีทองทุเรียน ราคาพุ่งกิโลกรัมละ 165-170 บาท มังคุด 70 บาท

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลไม้ภาคตะวันออกได้ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 90% คงเหลือเพียง 10% ก็จะหมดฤดูกาล และเข้าสู่ผลไม้ภาคเหนือ คือ ลำไย มะม่วง ลิ้นจี่ สับปะรด ที่ผลผลิตจะเริ่มออกตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย. ผลไม้ภาคใต้ คือ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง จะออกตั้งแต่ปลาย มิ.ย. เช่นเดียวกัน ซึ่งกรมได้เตรียมมาตรการรับมือตามนโยบายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไว้แล้ว และมั่นใจว่าจะสามารถดูแลราคาให้ทรงตัวอยู่ในระดับสูง เหมือนกับราคาผลไม้ภาคตะวันออก ที่ปีนี้ถือเป็นปีทองอีกปีหนึ่งของเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้

ทั้งนี้ ในส่วนของลำไย ได้ประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อ และทำสัญญารับซื้อล่วงหน้าเพื่อส่งออกและกระจายในประเทศ โดยเฉพาะเกรดช่อ ที่มีสัดส่วนประมาณ 30% ส่วนช่วงกลางฤดู ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกรดรูดร่วง ได้เตรียมแผนรับมือ โดยได้หารือกับสมาคมผู้ผลิตลำไยอบแห้งที่จะเข้าไปรับซื้อผลผลิตจำนวน 1 แสนตัน และยังจะดึงปั๊มน้ำมันให้เข้าไปช่วยซื้อ และนำเป็นของสมนาคุณให้ผู้เติมน้ำมันด้วย

สำหรับทุเรียนภาคใต้ ได้ประสานผู้ส่งออก ผู้รวบรวม ล้ง ให้เตรียมความพร้อมในการย้ายฐานการรับซื้อและแรงงานลงไปภาคใต้โดยเร็ว เพื่อให้ทันกับช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด และจะเกาะติดด้านราคาอย่างใกล้ชิด เพราะตอนนี้มีฐานราคาจากทุเรียนภาคตะวันออก เกรด AB เฉลี่ยอยู่ที่ 165-170 บาท ก็ต้องผลักดันให้ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และป้องกันไม่ให้มีการกดราคารับซื้อ

“ปีนี้ ทุเรียนภาคใต้มีแนวโน้มผลผลิตดี มีคุณภาพ และออกไม่พร้อมกัน น่าจะออกเป็น 4 ช่วง จากปีที่แล้วออกเพียง 3 ช่วง ทำให้บริหารจัดการได้ง่าย เพราะผลผลิตไม่กระจุกตัว ซึ่งกรมได้เริ่มมอนิเตอร์ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูแล้ว และยังได้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด ที่เป็นแหล่งผลิต ให้ช่วยติดตามสถานการณ์ ดูแลการรับซื้อ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรม” นายกรนิจกล่าว

ส่วนมังคุด ก็มีแผนรับมือไว้แล้ว โดยได้ประสานผู้ส่งออก ผู้ประกอบการ ล้ง เข้าไปเปิดจุดรับซื้อ และเร่งระบายผลผลิตในช่วงที่ออกสู่ตลาดมาก ทั้งกระจายผ่านห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างท้องถิ่น ปั๊มน้ำมัน หมู่บ้าน คอนโดมิเนียม ซึ่งทั้งหมดนี้พร้อมดำเนินการทันที

ผลผลิตผลไม้ภาคใต้ ปี 2567 มีปริมาณ 9.05 แสนตัน เพิ่มขึ้น 7% แยกเป็นทุเรียน 6.71 แสนตัน เพิ่ม 10% มังคุด 1.48 แสนตัน ลด 0.2% เงาะ 5.3 หมื่นตัน ลด 1% และลองกอง 3.3 หมื่นตัน ลด 2%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ทุเรียนภาคตะวันออกได้ออกสู่ตลาดแล้ว 90% ราคาอยู่ในเกณฑ์ดีมาก และถือเป็นปีทองอีกปีหนึ่ง โดยเกรด AB อยู่ที่ 165-170 บาท/กก. สูงสุด 175-180 บาท/กก. ปีที่แล้ว 150 บาท/กก. เกรดตกไซส์ 110-120 บาท/กก. ปีที่แล้ว 90-100 บาท/กก. มังคุด ราคาเฉลี่ย 70.63 บาท/กก. เทียบปี 2565 อยู่ที่ 61 บาท/กก. ตกไซส์ 47-50 บาท/กก. ปี 2565 อยู่ที่ 38 บาท/กก. ส่วนที่ไม่เทียบปี 2566 เพราะปี 2566 เป็นปีที่ผลผลิตเสียหาย ราคาเลยโดดสูงมาก เงาะโรงเรียน เกรดส่งออก ราคา 38.50 บาท/กก. ปีที่แล้ว 37 บาท/กก. เงาะสีทอง 28 บาท/กก. ปีที่แล้ว 26 บาท/กก. และลองกอง เบอร์ 1 75 บาท/กก.