‘ไทยสมายล์บัส’ อ่วมรายได้หายเดือนละ 60 ล้านบาท จี้รัฐเร่งแก้รถเถื่อนวิ่งทับเส้นทาง-ทบทวนปฏิรูปรถเมล์ใหม่

ไทยสมายล์บัสโวยถูกวิ่งทับซ้อนเส้นทาง ทำขาดรายได้วันละ 2 ล้านบาท วอนกรมการขนส่งฯ-คมนาคมเร่งแก้ปัญหาชี้ปฏิรูป 1 เส้นทาง 1 ผู้ประกอบการไม่จริงพร้อมเสนอ 4 แนวทบทวนปฏิรูปใหม่ ขณะที่ตั้งเป้าผู้โดยสาร 7 แสนคน/วัน เผยเด็กเจนใหม่นิยมใช้รถเมล์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

น.ส.กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทางและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า EV 100% เปิดเผยว่า จากการดำเนินธุรกิจรถเมล์ไฟฟ้าที่ให้บริการประชาชนมาเป็นเวลา 2 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 บริษัทฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีผู้ใช้บริการมากกว่า 300,000 คนต่อวัน จากเส้นทางรถโดยสารที่ให้บริการทั้งสิ้น 123 เส้นทาง โดยมีรายได้อยู่ที่ 5 ล้านบาทต่อวัน (ค่าโดยสารเฉลี่ย 20 บาทต่อคน) ขณะที่ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้โดยสารไปที่ 700,000 คนต่อวัน ภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้มีรายได้เพิ่มเป็น 14 ล้านบาทต่อวัน และเป้าหมายต่อไปผู้โดยสารที่ 1 ล้านคนต่อวัน โดยมีสัดส่วนผู้โดยสารกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 20-30% แล้ว

ปัจจุบันมีรถจำนวน 2,350 คันแล้ว และได้บรรจุรถในระบบครบตามใบอนุญาตที่ทางกรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้แล้วและมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนให้ครบ 3,100 คันตามเป้าหมาย ซึ่งมากกว่าจำนวนรถที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กำหนดตามเงื่อนไขใบอนุญาตถึง 45% ทั้งนี้ เพื่อนำมาเพิ่มความถี่ในการให้บริการอย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ แม้จะมีรถจำนวน 2,350 คัน แต่ไม่สามารถวิ่งได้เต็มฟลีต เนื่องจากมีปัญหาจากการรถขนส่งอื่นทั้ง ขสมก.และรถร่วมอื่นๆ วิ่งทับซ้อน 50%-60% หรือประมาณ 70 เส้นทาง บนเส้นทางที่บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาต จำนวน 123 เส้นทาง

ส่งผลให้บริษัทประสบกับการขาดทุนจากการขาดรายได้ที่ควรได้ไป วันละ 2 ล้านบาท หรือ 60 ล้านบาทต่อเดือน หรือช่วง 2 ปี บริษัทต้องแบกการขาดทุนอย่างต่ำ 1,200 ล้านบาท แล้วสะท้อนว่า แผนปฏิรูปรถโดยสารสาธารณะ 1 เส้นทาง 1 ผู้ประกอบการ ของกรมการขนส่งทางบก ยังมีปัญหาหลายด้าน ที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการ

"เคยเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นกับกรมการขนส่งทางบกไปตั้งนานแล้ว แต่ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข เคยถามว่ารถร่วมฯ อื่น และ ขสมก.จะถอนรถออกจากเส้นทางเมื่อใดก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ปัญหาที่เจอ เช่น เส้นทางหนึ่งจะต้องมีรถ ขั้นต่ำ 30 คัน แต่ยังมีรถร่วมฯ วิ่งอยู่ 20 คัน หรือทับซ้อน 60% ขณะที่บริษัทฯ มีต้นทุนค่าดำเนินการที่ 3,500 บาทต่อคันต่อวัน แต่เราไม่สามารถหารายได้เต็มประสิทธิภาพได้เพราะมีรถอื่นมาวิ่งแย่งรายได้เราไป"


ซึ่งจากแผนปฏิรูปรถโดยสารสาธารณะ 1 เส้นทาง 1 ผู้ประกอบการ ของกรมการขนส่งทางบก ยังคงพบปัญหาหลายด้าน เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการทุกราย ดังนั้น ไทย สมายล์ บัส จึงได้เสนอ 4 แนวทางแก้ไขปัญหาทั้งระบบ คือ
1. แก้ไขกฎระเบียบที่ยังไม่เอื้อต่อการเดินรถ เช่น อนุญาตให้ปรับย้ายรถในเส้นทางกลุ่มเดินรถเดียวกันได้ เพื่อเสริมรถในเส้นทางที่มีความต้องการสูง ตอบโจทย์ผู้เดินทาง หรือเส้นทางไหนที่ยาวเกินไป ควรปรับปรุบให้เหมาะสม

2. เร่งแก้ไขปัญหาเส้นทางทับซ้อนและรถเถื่อน ที่ลักลอบรวมถึงสวมสิทธิ์นำรถมาวิ่งให้บริการประชาชนทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก นอกจากไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย ยังเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุจากการแย่งผู้โดยสาร เฉพาะของไทย สมายล์ บัส พบปัญหารถเมล์เถื่อนและวิ่งทับซ้อนมากกว่า 50% จากที่ให้บริการทั้งหมด 123 เส้นทาง

3. ขอให้เร่งสรุปความชัดเจนเลขสายใหม่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อความสะดวกและจดจำง่าย เนื่องจากปัจจุบันได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าจดจำยาก และไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน

4. ขอให้ร่วมบูรณาการยกระดับรถเมล์ทั้งระบบ โดยเฉพาะด้านบุคลากร ซึ่งไทย สมายล์ บัส ยินดีที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนและควรใช้รถปรับอากาศใช้ไฟฟ้าทั้งหมดเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนผู้ใช้บริการ