ผู้จัดการรายวัน 360 - ศรีจันทร์ ก้าวสู่การเป็นแบรนด์ Beauty & Wellness ตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งวงการเครื่องสำอางไทย ล่าสุดจัดกิจกรรม SRICHAND #กล้าท้าแสง กับผลิตภัณฑ์กันแดดสกินแคร์ ศรีจันทร์ ซันลูชั่น ซันสกรีน พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ “โบว์-เมลดา” มั่นใจดันยอดขายโต 200% ต่อเนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมดันภาพรวมรายได้โต 30-35% เฉียด 1,400 ล้านบาท
นายรวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด เปิดเผยว่า ศรีจันทร์ (Srichand) ถือเป็นแบรนด์เครื่องสำอางคุณภาพที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 76 ปี โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์หมวดเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะในกลุ่ม HWB (Health, Wellness, and Beauty) ที่เกี่ยวกับสุขภาพความงาม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสภาพผิว
ล่าสุดกับผลิตภัณฑ์กันแดดสกินแคร์ ศรีจันทร์ ซันลูชั่น ที่มีด้วยกัน 2 สูตร คือ สูตรแอคเน่ แคร์ และไวเทนนิ่ง ตอบโจทย์ความต้องการและกังวลหลักของผู้บริโภค พัฒนาให้เข้ากับผิวคนไทยด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซีมดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ โดดเด่นในเรื่องของการควบคุมความมันได้อย่างดี ปีนี้พร้อมทำตลาดอย่างจริงจัง ได้จัดกิจกรรม SRICHAND #กล้าท้าแสง พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ “โบว์-เมลดา สุศรี” ช่วยดันเมกอัพสู่สกินแคร์
“ปีนี้ตลาดกันแดดเติบโตอย่างมีนัย นับตั้งแต่หลังโควิดคนออกจากบ้านเยอะขึ้น และคนให้ความสำคัญและใส่ใจ เข้าใจ กับการใช้กันแดดมากขึ้น จากสภาพอากาศที่แดดเมืองไทยร้อนรุนแรงจากเดิมมาก ซึ่งศรีจันทร์ทำตลาดกันแดดมานานแล้ว แต่ทำจริงจังในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา พบว่าในปี 2565-2566 ยอดขายกันแดดศรีจันทร์โต 200% ต่อเนื่อง และในปีนี้มั่นใจว่าจะเติบโตอย่างน้อย 200% อีกครั้ง”
นายรวิศกล่าวต่อว่า แผนการดำเนินงานของศรีจันทร์จะอยู่ภายใต้กลยุทธ์สำคัญ คือ การให้ความสำคัญและเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และสามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงที โดยในอนาคตศรีจันทร์จะไม่ได้เป็นเพียงแค่บิวตี้แบรนด์ แต่จะเดินหน้าไปสู่ธุรกิจ Beauty & Wellness เนื่องจากเทรนด์ผู้บริโภคมีแนวโน้มให้ความสำคัญและใสใจกับเรื่องของสุขภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 30-35% จาก 1,030 ล้านบาท หรือน่าจะอยู่ที่ 1,390 -1,400 ล้านบาท จากปีก่อนที่โตขึ้น 42% จาก 760 ล้านบาทในปีก่อนหน้า ซึ่งรายได้หลักมาจากศรีจันทร์ 65% และศศิ 35% ขณะที่การเติบโตของปีนี้จะมาจากสกินแคร์เป็นหลัก โดยกันแดดทำยอดขายที่ 10% ของรายได้รวม และเกิดจากการเพิ่มพื้นที่การขายได้มากขึ้น มีการออกผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ศรีจันทร์ใหม่ๆ เฉลี่ย 2 เดือนครั้ง รวมถึงในปีหน้าที่จะมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ด้านเวลเนสอีกส่วนหนึ่งด้วย
ปัจจุบันตลาดความงามมีการเติบโตประมาณ 10.4% และมีการแข่งขันสูงขึ้นมาก ทั้งแบรนด์ใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดและแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว โดยตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมาตลาดกันแดดเติบโตดีมาก ซึ่งส่วนแบ่งตลาดกันแดดของศรีจันทร์ก็ถือเป็นความท้าทายและเป็นโอกาสที่ศรีจันทร์จะยังเติบโตในตลาดนี้ได้อีก
“ศรีจันทร์ไม่เคยหยุดพัฒนาและยังคงเป็นแบรนด์เครื่องสำอางไทยที่น่าจับตามองในการพัฒนาสินค้าและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อยกระดับวงการความงามไทยให้ทัดเทียมระดับสากล และส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เป็นแบรนด์ที่คนไทยภูมิใจและวางใจได้อย่างแท้จริง“ นายรวิศกล่าวสรุป
