ชาวไร่อ้อยตบเท้าหารือ "สอน." เร่งผลักดันวาระเสนอ "กอน." ถกด่วน 3 เรื่อง ทั้งขอให้สำรวจราคาน้ำตาลทรายเพื่อการคำนวณราคาที่เหมาะสมหลังพบประชาชนจ่ายราคาน้ำตาลแพงเกินจริงหวังดึงส่วนเกินมาคำนวณเป็นรายได้ระบบ เร่งเสนอ ครม.ชัดเจนเงินตัดอ้อยสดฤดูหีบปี 66/67 ที่เปิดมา 50 วันแต่ยังไร้วี่แวว และขึ้นค่าธรรมเนียมส่งออกป้องกันน้ำตาลขาดหลังพบอ้อยส่อวูบหนัก
นายวีระศักดิ์ ขวัญเมือง ผู้แทนชาวไร่อ้อยในคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ชาวไร่อ้อยได้เข้าหารือกับผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เพื่อขอให้เร่งผลักดันการประชุม กอน.ใน 3 เรื่องสำคัญในการสนับสนุนระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้สอดคล้องกับภาวะปัจจุบันได้แก่ 1. ขอให้ทำการสำรวจราคาน้ำตาลทรายที่พบว่าราคาขายปลีกในประเทศถึงมือประชาชนที่ไม่ใช่ในห้างโมเดิร์นเทรดมีราคาสูงเฉลี่ย 30-32 บาท/กิโลกรัม (กก.) ซึ่งเห็นว่าราคาส่วนเกินดังกล่าวควรนำมาคำนวณเป็นรายได้ของระบบเพิ่มได้
“ราคาหน้าโรงงานน้ำตาลที่กำหนดไว้ราคาน้ำตาลทรายขาวและขาวบริสุทธิ์ที่ 20-21 บาท/กก.นั้นเมื่อย้อนกลับมาเป็นราคาขายปลีกที่ควรควบคุมค่อนข้างสูงเกินไปมาก ดังนั้นฝ่ายรัฐควรจะพิจารณาถึงความเหมาะสมในเรื่องนี้ว่าควรจะนำส่วนที่เกินจากข้อเท็จจริงมาจัดสรรเป็นรายได้ของระบบแบ่งปันผลประโยชน์เพื่อให้ชาวไร่ได้รับประโยชน์ในส่วนนี้ด้วย” นายวีระศักดิ์กล่าว
สำหรับเรื่องที่ 2 คือการให้ กอน.เร่งรัดการพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอสนับสนุนวงเงินตัดอ้อยสดในโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีแนวทางดำเนินงานในทุกปีที่ผ่านมา โดยชาวไร่อ้อยจะได้รับเงินสนับสนุนตัดอ้อยสดตันละ 120 บาทเนื่องจากการตัดอ้อยสดจำเป็นต้องใช้แรงงานและเครื่องจักรที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้นซึ่งขณะนี้ฤดูการผลิตปี 2566/67 ที่อยู่ระหว่างการเปิดหีบมาเกือบครึ่งทางแต่กระทรวงอุตสาหกรรมยังคงขาดความชัดเจนถึงเงินช่วยเหลือ ทั้งที่ในฤดูหีบปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายเหลืออ้อยไฟไหม้ไม่เกิน 25% จากกำลังผลิตรวม
เรื่องที่ 3 ขอให้ กอน.เร่งพิจารณาเก็บค่าธรรมเนียมการส่งออกน้ำตาลทรายของไทยเพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำตาลบริโภคในประเทศจากการส่งออกเพิ่มขึ้นเนื่องจากฤดูหีบปี 2566/67 ที่มีการเปิดหีบนับตั้งแต่ 10 ธ.ค. 66 จนถึง 28 ม.ค. 67 รวมระยะเวลา 50 วันล่าสุด จากโรงงานน้ำตาล 57 แห่งมีปริมาณอ้อยรวมทั่วประเทศ 45.21 ล้านตัน ค่าความหวานเฉลี่ย 11.74 ซีซีเอส และคาดการณ์ว่าจะมีการทยอยปิดหีบในปลาย ก.พ.นี้และหลายพื้นที่คาดการณ์อ้อยจะหมดช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม 67 ดังนั้นภาพรวมปริมาณอ้อยหีบปีนี้จะค่อนข้างต่ำประมาณ 70 ล้านตันบวกลบเล็กน้อยซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณน้ำตาลทรายที่ลดลง
“ขณะนี้กำลังประเมินตัวเลขปริมาณน้ำตาลทรายอีกครั้งซึ่งดูจากแนวโน้มคงจะต่ำกว่าฤดูหีบที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 11 ล้านตันค่อนข้างแน่นอนแต่จะมากน้อยแค่ไหนคงต้องรอผลอ้อยปิดหีบ และเมื่อมองทิศทางราคาน้ำตาลทราบดิบตลาดโลกที่ทรงตัวระดับ 24 เซ็นต์ต่อปอนด์ขณะนี้ก็ถือว่าเป็นราคาที่ยังสูงทำให้เกิดการส่งออกเพิ่มหากไม่ดูแลไว้อาจเกิดปัญหาตึงตัว” นายวีระศักดิ์กล่าว