BGRIM ตั้งเป้าปี 67 กำไรโต 10-15% จากปีก่อน จากต้นทุนราคาก๊าซฯ ที่ลดลง และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เข้าสู่ระบบอีก 300 เมกะวัตต์ พร้อมทั้งตั้งเป้ามีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เพิ่มอีก 600-800 เมกะวัตต์ อัดงบลงทุน 1-1.5 หมื่นล้านบาทเพื่อใช้ขยายโรงไฟฟ้าใหม่และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มั่นใจกลางปีนี้นำเข้า LNG ป้อนโรงไฟฟ้าในเครือฯ จ่อลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐฯ
นางสาวศิริวงศ์ บวรบุญฤทัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ - สายงานการเงินและบัญชี บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยทิศทางผลประกอบการในปี 2567 ว่าบริษัทคาดว่าจะเติบโตขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เข้ามาราว 300 เมกะวัตต์ มาจากโครงการโซลาร์รูฟท็อป โครงการโซลาร์ลอยน้ำ และโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ รวมทั้งธุรกิจไฟฟ้าในไทยได้รับอานิสงส์การปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ ทำให้ต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติที่ปรับลดลง และค่าเอฟทีที่ขยับสูงขึ้นเล็กน้อย ทำให้บริษัทมั่นใจว่าปีนี้มีกำไรเติบโตขึ้น 10-15% จากปีก่อน
อย่างไรก็ดี บริษัทตั้งเป้าในปี 2567 จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เพิ่มขึ้นราว 600-800 เมกะวัตต์ มีทั้งโครงการโรงไฟฟ้าที่ก่อสร้างใหม่ (Greenfield) และการควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) ในโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์อยู่แล้ว โดยบริษัทได้ตั้งงบลงทุนปีนี้ประมาณ 10,000-15,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการและโครงการใหม่
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นโครงการประเภทไฮบริดทั้งโซลาร์และไฮโดร โดยการศึกษาเบื้องต้นมีโอกาสเข้าลงทุนราว 50-100 เมกะวัตต์ คาดจะปิดดีลในปีนี้ราว 30-40 เมกะวัตต์
นายนพเดช กรรณสูต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานการลงทุน นวัตกรรม และความยั่งยืน และสายงานธุรกิจในประเทศไทยและมาเลเซีย บมจ. บี.กริม เพาเวอร์ กล่าวถึงแผนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ว่า บริษัทมีแผนนำเข้า LNG ในช่วงครึ่งปีหลังปี 2567 คาดว่าจะสามารถนำเข้าได้ประมาณ 4-5 คาร์โก คาร์โกละ 5-7 หมื่นตัน เพื่อใช้ภายในโรงไฟฟ้าของบริษัทจำนวน 23 โรง ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับซัปพลายเออร์ที่สหรัฐฯ และแถบแอฟริกาเพื่อทำสัญญาซื้อขายระยะยาว ทำให้ได้ก๊าซฯในราคาที่ถูก ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอกฎเกณฑ์การนำเข้า LNG จาก ปตท.ในฐานะ Pool manager ออกมาก่อน คาดว่าจะชัดเจนภายในครึ่งแรกปี 2567
นอกจากนี้ ตั้งเป้าเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ระยะยาว “Green Leap - Global and Green” โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้มากกว่า 50% ในปี 2573 ซึ่งบริษัทตั้งเป้าขยายการลงทุนสู่กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 10,000 เมกะวัตต์ ทำให้ต้องใช้เงินลงทุนราว 4.1 แสนล้านบาทในช่วง 5 ปี (ปี 2567-71) โดยเป็นเงินลงทุนของ BGRIM เอง 6.7 หมื่นล้านบาท ส่วนการหาแหล่งเงินลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตจะมาทั้งจากกระแสเงินสดในมือ ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โดยจะมีเงินที่จะรับรู้เข้ามาจากโครงการลงทุนต่างๆ อีกประมาณ 4.3 หมื่นล้านบาท รวมถึงการออกหุ้นกู้ เป็นต้น บริษัทมีเป้าหมายก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Carbon Emissions ภายในปี 2593
ปัจจุบัน บี.กริม มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 3,970 เมกะวัตต์ เติบโตขึ้นจากปีก่อน 19% และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 12 โครงการ ทำให้มีกำลังการผลิตรวมเป็น 4,623 เมกะวัตต์ มีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน ณ สิ้นปี 2566 เพิ่มเป็น 35% จากปีก่อนหน้านี้อยู่ที่ 26%