xs
xsm
sm
md
lg

15 ธ.ค. 66! เปิดใช้รถไฟทางคู่สายใต้จากราชบุรี-ชุมพร สายอีสาน "บันไดม้า-คลองขนานจิตร"จ่อคิวเปิด เม.ย. 67

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุรพงษ์” มั่นใจรถไฟทางคู่สายใต้ "นครปฐม-ชุมพร" พร้อมเปิดใช้ช่วงแรก 15 ธ.ค. 66 จากสถานีบ้านคูบัว จ.ราชบุรี-สถานีสะพลี จ.ชุมพร ระยะทาง 348 กม. และเปิดเต็มสายในเม.ย. 67 ส่วนสายอีสาน ช่วงบันไดม้า-คลองขนานจิตร 23 กม. ใกล้เสร็จวางคิวเปิดใช้ เม.ย.ปี 67

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการเปิดเดินรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน -ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 421 กม. ที่สถานีรถไฟชุมทางหนองปลาดุก จ.ราชบุรี ว่า ปัจจุบันภาพรวมการดำเนินงานการก่อสร้างงานโยธา มีความคืบหน้ากว่า 97% โดยการรถไฟฯ เร่งรัดก่อสร้างงานโยธาเพื่อให้สามารถเปิดใช้ โดยวิ่งแบบทางคู่ไปก่อนโดยใช้ระบบอาณัติสัญญาณเดิม ในช่วงแรก ระหว่างสถานีบ้านคูบัว จังหวัดราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จังหวัดชุมพร รวมระยะทาง 348 กม. ในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 และเปิดใช้ทางคู่ในช่วงที่สอง ระหว่างสถานีนครปฐม -บ้านคูบัว ระยะทางประมาณ 57.76 กม. มีแผนที่จะเปิดใช้ทางคู่ประมาณช่วงเดือนเมษายน 2567 และคาดว่างานโยธาจะเสร็จและเปิดได้ตลอดสาย 421 กม.ได้ประมาณกลางปี 2567 ส่วนงานระบบอาณัติเสร็จ 100% ปี 68


ทั้งนี้ รฟท.ได้เร่งรัดก่อสร้างโครงการ ซึ่งจะสามารถเปิดใช้งานเปิดใช้ทางคู่ในช่วงแรก ระหว่างสถานีบ้านคูบัว จังหวัดราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จังหวัดชุมพร รวมระยะทาง 348 กิโลเมตร ได้ในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ส่วนช่วงที่สอง ระหว่างสถานีนครปฐม-บ้านคูบัว มีแผนที่จะเปิดใช้ทางคู่ประมาณช่วงเดือนเมษายน 2567 ขณะที่งานสะพานกลับรถ (U-Turn)/สะพานข้ามทางรถไฟ (Overpass) ได้มีการเปิดใช้งานและยกเลิกทางข้ามเสมอระดับทางรถไฟ จำนวน 24 แห่งจากทั้งหมด 30 แห่ง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ให้กับพี่น้องประชาชนได้อีกทางหนึ่งด้วย

ซึ่งได้มอบนโยบายให้การรถไฟฯ เร่งรัดการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง และเครื่องสูบน้ำบริเวณอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกบ ปากแรต นครชุมน์ และหลังวัดดอนตูม โดยขณะนี้การรถไฟฯ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำชั่วคราว ในระหว่างที่รอการติดตั้งเครื่องปั๊มน้ำถาวร ที่ถูกลักลอบขโมยไป โดยจะติดตั้งเครื่องปั๊มน้ำถาวรทั้งหมด 4 แห่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2566


“ตามมาตรฐานความปลอดภัยของรถไฟทางคู่จะต้องไม่มีจุดตัดถนนระดับดิน กรณีมีจุดตัด จะต้องมีระบบเครื่องกั้นอัตโนมัติ หรือทำเป็นทางข้ามหรือทางลอด แต่ปัจจุบันรถไฟยังมีจุดตัดถนนที่เป็นทางลักผ่าน ประมาณ 616 แห่ง ใน 47 จังหวัด ซึ่งพื้นที่จังหวัดราชบุรีมีทางลักผ่าน 1 แห่ง ซึ่งตามแผนจะต้องปิด แต่มีองค์กรท้องถิ่นร้องเรียนว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อน กระทบต่อการใช้ชีวิต จึงขอให้ไปหารือในการทำเป็นอุโมงค์ทางลอด เพื่อให้ประชาชนยังคงสัญจรไปมาได้ ซึ่งจะใช้ค่าก่อสร้างประมาณ 30 ล้านบาท แต่ทั้งนี้เนื่องจากไม่อยู่ในงบประมาณก่อสร้างรถไฟทางคู่จึงให้ผู้เกี่ยวข้องไปหารือร่วมกันต่อไป”

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการใช้สิทธิเหนือพื้นดินในโครงการรถไฟทางคู่ช่วงพื้นที่จังหวัดราชบุรี และรถไฟสายธนบุรี-น้ำตก (กาญจนบุรี) ซึ่งปัจจุบันได้มีหน่วยงานราชการในจังหวัดราชบุรีขอใช้พื้นที่ของการรถไฟฯ จัดทำพื้นที่สาธารณประโยชน์ เช่น สวนหย่อม ถนน คูคลอง ทางระบายน้ำ ในย่านสถานีรถไฟ คลองส่งน้ำเพื่อการเกษตร จำนวน 27 แห่ง จึงได้มอบให้การรถไฟฯ เร่งรัดดำเนินการในด้านต่างๆ ให้แล้วเสร็จ


รมช.คมนาคมกล่าวว่า เมื่อเปิดเดินรถไฟสายใต้ตามแผนจะเพิ่มความจุอีก 1 เท่า จะลดระยะเวลาเดินทางสายใต้ได้ ไม่ต้องรอหลีก ดังนั้นเป็นปีที่จะเริ่มต้นเปิดใช้งาน ทางคู่ ที่จะเกิดประโยชน์ในการเดินทาง ที่ใช้ต้นทุนน้อยกว่าทางรถยนต์กรุงเทพฯ-หัวหิน เหลือ 3 ชม., กรุงเทพฯ-ชุมพร เหลือ 6 ชม. เท่ารถยนต์ แต่ค่าเดินทางถูก และปลอดภัยกว่า

และหลังจากเปิดให้บริการรถไฟทางคู่สายใต้แล้ว มีแผนจะเปิดบริการรถไฟทางคู่สายอีสาน ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 135 กม. วงเงิน 2.99 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนจะเปิดบริการบางช่วงก่อน คือช่วงสถานีบันไดม้า-สถานีคลองขนานจิตร ระยะทาง 23 กม. คาดจะเปิดบริการช่วงหลังสงกรานต์ เดือน เม.ย. 67


นอกจากนี้ จะเร่งรัดการจัดหารถจักร ล้อเลื่อน ให้เดินหน้าตามแผน เพราะรัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไปมาก จะต้องมีเครื่องมือให้บริการรองรับความต้องการ ซึ่งขณะนี้ แผนการจัดหารถดีเซลราง จำนวน 184 คัน ได้เสนอไปที่สภาพัฒน์ฯแล้วเพื่อพิจารณาแผนการลงทุน



กำลังโหลดความคิดเห็น