ผู้จัดการรายวัน 360 – “บิวเทรี่ยม” เปิดแผนรุก 5 ปี เป้ารายได้ 5,000 ล้านบาท ทุ่มงบก้อนโต 2,000 ล้านบาท เร่งขยายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมเล็งซีแอลเอ็มวี รับเทรนด์ตลาดร้านบิวตี้สเปเชียลตี้่สโตร์มัลติแบรนด์โตพุ่ง 12% เผยเคาน์เตอร์แบรนด์ปรับโมเดลยุบช่องทางจุดขายเคาน์เตอร์ในห้าง มาเข้าร้านมัลติแบรนด์มากขึ้น เผยปีนี้รายได้พุ่ง 112% สู่ 2,000 ล้านบาท
นายจิรวุฒิ โรจน์รัตนวลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด (BEAUTRIUM) เปิดเผยว่า บริษัทฯวางแผนการลงทุนช่วง 5 ปีจากนี้ (2566-2570 ) โดยจะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท ในการขยายสาขาและการปรับปรุงร้านเดิม ให้ถึง 100 สาขา ระบบแบ็คออฟฟิศ และสินค้าคลัง เป็นหลัก และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสาขาให้ได้ครอคคลุมทั่วประเทศ และมียอดขายรวมเป็น 5,000 ล้านบาท และมีแผนที่จะขยายตลาดต่างประเทศเน้นไปที่กลุ่มซีแอลเอ็มวีก่อน ซึ่งประเทศที่น่าสนใจลำดับแรกเช่น เวียดนาม
ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านบิวเทรี่ยม ประมาณ 34 สาขา ล่าสุดเพิ่งเปิดที่สุพรรณบุรี และภายใน 2 เดือนสุดท้่ายนี้จะะเปิดอีก 3 แห่ง คือ ที่โคราช เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และ เซ็นทรัลเวิลด์ รวมถึงสิ้นปีนี้จะมีครบ 37 สาขา ครอบคลุมกว่า 10 จังหวัด ซึ่งปีหน้าจะเปิดอีกประมาณ 10 กว่าสาขา เพื่อให้กระจายหลายจังหวัด และตั้งเป้ายอดขายรวมปีหน้าเติบโต 80% จากปีนี้
อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะลงทุนสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่เพิ่ม เนื่องจากที่เดิมคือสมุทรปราการเริ่มเต็มแล้ว ส่วนประเด็นการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น ก็อยู่ที่ความเหมาะสมของตลาดและสถานการณ์ในช่วงน้ันๆ แต่ขณะนี้ยังไม่มีแผน
โดยปีนี้เปิดสาขาใหม่่ประมาณ 10 กว่าสาขา คาดว่าภายในปี2566นี้จะมีรายได้รวมประมาณ 2,000 ล้านบาท กลับไปสู่จุดเดิมที่ก่อนเกิดโควิดแล้ว หลังจากที่รายได้ตกลงมาช่วงโควิดระบาดหนัก ปีนี้เติบโต 112% จากปี2565 ที่ทำรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท นอกนั้นก็มีช่องทางออนไลน์และโซเชียลด้วย
“เบื้องต้น บริษัทได้ปรับโฉมสาขาสยามสแควร์ครั้งใหญ่ เพื่อให้กลายเป็น Flagship Store หรือสาขาที่เป็นสัญลักษณ์ สะท้อน ความโดดเด่นของแบรนด์ อีกทั้งยังขยายไปยังทำเลสำคัญอื่นๆ อย่าง เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เอสพลานาร์ด จังซีลอน เป็นต้น”
นายจิรวุฒิ กล่าวว่า การเติบโตของรายได้และแผนการขยายสาขาต่อเนื่อง มาจากการเติบโตของตลาดรวมบิวตี้ โดยเฉพาะร้านบิวตี้สโตร์เชนแบบมัลติแบรนด์ มีการเติบโตที่ดี ตลาดให้การยอมรับมากขึ้น อีกทั้งเคาน์เตอร์แบรนด์เนมหลายแบรนด์ก็เริ่มจะยุบช่องทางเคาน์เตอร์ในห้างแล้ว และหันมาจำหน่ายในร้านมัลติแบรนด์มากขึ้น เพราะร้านมัลติแบรนด์เป็นเทรนด์ที่มาแรง เพราะเป็นร้านรวมของสินค้าที่หลากหลายจำนวนมาก มีความสะดวกและครบครัน ซึ่งบริษัทฯเองก็มีเคาน์เตอร์แบรนด์หลายแบรนด์ที่มาจำหน่ายในร้านแล้ว
ขณะที่มูลค่าตลาดรวมของกลุ่มบิวตี้สเปเชียลตี้สโตร์มัลติแบรนด์ มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาท มีการเติบโตที่ดีมากถึง 12% โดยมีผู้ประกอบการเชนรายใหญ่ในตลาดไม่กี่ราย โดยบิวเทรี่ยมเป็นผู้ํนำตลาดในด้านของจำนวนสาขาที่มากที่สุด
นายอติโรจน์ โรจน์รัตนวลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เปิดเผยว่า ปัจจุบันในร้านบิวเทรี่ยม มีสินค้าบริการจำหน่ายมากกว่า 1,000 แบรนด์ รวมมากกว่า 1 แสนเอสเคยู ทั้งเอเซีย ยุโรป อเมริกา โดยแบ่งสัดส่วนสินค้าเป็น สกินแคร์ 37%, คัลเลอร์เมคอัพ 35%, น้ำหอม 8% และที่เหลืออื่นๆ เช่นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเกี่ยวเกี่ยวกับสุขภาพความงาม กัดเจ็ทความงาม เป็นต้น และล่าสุดได้นำสินค้ากลุ่มสแน็คและเครื่องดื่มเข้ามาจำหน่ายด้วย เริ่มสาขาแรกที่สยามสแควร์ และจะขยายไปยังสาขาอื่นด้วย เช่น ซีคอนบางแค
นายอติโรจน์ กล่าวต่อว่า กลยุทธ์การตลาดเพื่อมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จ และการเป็นผู้นำบิวตี้ รีเทล ในระดับสากล ก็คือ การใช้กลยุทธ์ Differentiation เน้นสร้างความแตกต่างและมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนให้กับแบรนด์บิวเทรี่ยม ผ่านการให้บริการที่ประทับใจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดแคมเปญโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ผ่านทุกแพลตฟอร์ม และการนำเสนอโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการพัฒนาบริการและมีการเพิ่มสินค้าในร้านต่อเนื่อง ทั้งเอ็กซ์คลูซีฟ และแบรนด์ใหม่ๆที่นำเทรนด์ ด้วยการเพิ่มงบตลาดอีก 2 เท่าจากเดิม ล่าสุดจัดแคมเปญ 12 years Anniversary of Beautiful Success เตรียมจัดกิจกรรมอีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ ใจกลางสยามสแควร์ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 นี้
สำหรับสินค้าใหม่ก็มีการขยายต่อเนื่องไม่หยุด ล่าสุดที่อยู่ระหว่างดำเนินการรวมท้ังที่เข้ามาจำหน่ายแล่้วกว่า 10 แบรนด์ เช่น แบรนด์HUDA จากตะวันออกกลาง แบรนด์TREE ของซีเอ็มจี แบรนด์FOREO เป็นพวกกัดเจ็ทความงาม รวมทั้งการเน้นสินค้ากลุ่มเพรสทีจเคาน์เตอร์แบรนด์ด้วยทั้งของ เกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป