ผู้จัดการรายวัน 360 – “ซีพีเอ็น” ชี้จับตาดูสงครามตะวันออกกลางใกล้ชิด แต่มั่นใจไม่กระทบภาพรวม ย้ำเดินหน้าต่อเนื่องแผนลงทุน อีก 4 เมกะมิกซ์ยูซ ตามแผนเดิม พร้อมรีโนเวทสาขาเดิมต่อเนื่อง เผยความคืบหน้า เมกะมิกซ์ยูสแรก ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น (CPN) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์สงครามการสู้รบที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางนั้น บริษัทฯก็มีการจับตาดูสถานการณ์ความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดเช่นกัน แต่คาดว่าคงไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนักในเบื้องต้นนี้ พร้อมกับยืนยันการดำเนินงานตามแผนงานคงเดิมตามที่วางไว้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนลงทุนโครงการเมกะมิกซ์ยูสโปรเจ็คต์ จำนวน 5 แห่ง ที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ไม่นาน เพื่อต้องการยกระดับกรุงเทพฯให้เทียบชั้นมาตรฐานมหานครระดับโลกอย่างนิวยอร์ก, โตเกียว หรือโซล โดยแต่ละโครงการต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท และมีพื้นที่อย่างน้อย 25 ไร่ขึ้นไป และมีพื้นที่ค้าปลีกขั้นต่ำมากกว่า 350,000 ตารางเมตรขึ้นไป – 500,000 ตารางเมตร ในช่วงเวลา 5 - 10 ปีจากนี้ ยังเดินหน้าต่อเนื่อง
ขณะที่แผนลงทุนรวมในช่วง5 ปีจากนี้คือปี 2566-2570 จะใช้งบลงทุนรวม 135,000 ล้านบาท ซึ่งทุกโครงการเมกะมิกซ์ยูสก็จะอยู่ในงบประมาณนี้ด้วยบางส่วน ซึ่งคาดว่ารายได้รวมในช่วง 5 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่มากกว่า 70,000 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายการเติบโตต่อปีไม่ต่ำกว่า 10% ลงทุนเฉลี่ยปีละ 25,000 – 35,000 ล้านบาท
นอกจากนั้นก็ยังมีแผนรีโนเวทสาขาเก่าอีกหลายแห่ง เพื่อให้เกิดความเป็นมิกซ์ยูสสมบูรณ์แบบมากขึ้น เช่น เซ็นทรัลอุบลราชธานีล่าสุดก็เพิ่มโรงแรมเข้าไปแล้ว ส่วนที่เซ็นทรัลอยุธยาก็จะเปิดบริการโรงแรมเพิ่มสิ้นปีนี้ ส่วนเซ็นทรัลระยองก็จะเปิดส่วนของโรงแรมเพิ่มสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม นางสาววัลยา กล่าวว่า ส่วนเซ็นทรัลลาดพร้าวก็มีแผนที่จะเจรจาต่อสัญญาสัมปทานที่ดินต่ออยู่แล้ว แต่ปฎิเสธที่จะตอบคำถามว่า พื้นที่ที่ต่อเนื่องกับเซ็นทรัลลาดพร้าวในโซนพหลโยธินที่ซีพีเอ็นกำลังเร่งดำเนินการก่อสร้างอยู่นั้น จะเป็นเมกะมิกซ์ยูสด้วยหรือไม่
ส่วนโครงการเก่าก็ยังมีแผนรีโนเวทอย่างต่อเนื่องทั้งเมเจอร์รีโนเวท และไมเนอร์รียนเวท เช่นบางนา แจ้งวัฒนะ พระรามสอง ปิ่่นเกล้า พัทยา เป็นต้น ขณะที่่ในปีหน้าก็มีแผนที่จะเปิดบริการเพิ่มอีก 3 ศูนย์การค้าคือ เซ็นทรัลนครสวรรค์ เซ็นทรัลนครปฐม เซ็นทรัลกระบี่
ล่าสุดกับโครงการเมกะมิกซ์ยูสแรกคือ เซ็นทรัล พาร์ค ในโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ที่ซีพีเอ็นร่วมลงทุนกับกลุ่มดุสิต มูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท ก็มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยเริ่มมีการเปิดจองพื้นที่ค้าปลีกขณะนี้ ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ร้านอาหาร ทั้งแบรนด์ของไทย แบรนด์ต่างประเทศ ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าภายในโครงการส่วนของรีเทล จะมีแบรนด์เนมใหม่ๆจากต่างประเทศที่ไม่เคยเปิดในเมืองไทยมาก่อน ประมาณ 20%
โครงการนี้จะมี 4 ส่วนหลักคือ อาคารสำนักงาน ซีพีเอ็นถือหุ้นลงทุน 100%, รีเทล ซีพีเอ็นถือหุ้นลงทุน 85%, โรงแรม ซีพีเอ็นถือหุ้นลงทุน 30% และส่วนของเรสซิเดนเชียล ซีพีเอ็นถือหุ้นลงทุน 30%
นางสาววัลยา กล่าวว่า การพัฒนา ศูนย์การค้า ‘Central Park’ จะสร้างปรากฏการณ์ New Horizon ให้กับการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับเมืองใหญ่อย่าง Central Park ใจกลางนิวยอร์ก หรือ Hyde Park ใจกลางลอนดอน
เป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับลักชูรี่หนึ่งเดียวที่มี BTS & MRT สองสายหลักตัดกัน จึงมี Accessibility เข้าสู่โครงการได้อย่างไร้รอยต่อ ทำเลนี้เป็นศูนย์กลาง Financial & Commercial District เป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำของประเทศและระดับโลก ย่านที่อยู่อาศัยระดับ Ultra-luxury กว่า 17,000 Units, Luxury Hotels กว่า 6,500 keys, Grade-A Office Towers มีพื้นที่ GLA 1.5 ล้าน ตร.ม., Embassies & Consulates 47 แห่ง รวมถึงมหาวิทยาลัย, โรงเรียน และโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ
“เราตั้งเป้าทราฟฟิกของโครงการประมาณ 25 ล้านคนต่อปี และจะมี Regular Quality Traffic จากผู้คนที่ใช้ชีวิตภายในโครงการทั้งในส่วน Ultra-Luxury Residences, Hotel, Offices อีกด้วย และตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยว 10 ล้านคนต่อปีมาที่ Central Park ด้วย ดังเช่นที่ได้สร้างความสำเร็จมาแล้วที่ Central World”
จุดเด่นๆเช่น พื้นที่ Curated Experience สำหรับทุกไลฟ์สไตล์มากกว่า 55,000 ตร.ม. โดยคัดสรร Culture, Art, Global Trends ใหม่ๆ มาสู่ประเทศไทย รวมถึง Collaboration ร่วมกับแบรนด์ระดับโลก, พื้นที่ Food Destination กว่า 25,000 ตร.ม. ที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ Street Food, Grab & Go
“ เรามี Big Data ของ The 1 ที่มีมากกว่า 20 ล้านคนทั่วประเทศ ครอบคลุมกลุ่ม Wealth Segment ทั้งกรุงเทพฯ กว่า 750,000 คน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลกับ Tenants และวางแผนการทำ Intensive Marketing สร้างและดึง Events กว่า 1,000 งานทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ” นางสาววัลยา กล่าว
โครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มูลค่า 46,000 ล้านบาท พื้นที่รวม 440,000 ตร.ม. บนที่ดิน 23 ไร่ มุมถนนสีลม-พระราม 4 ประกอบไปด้วย โรงแรม Dusit Thani Bangkok จำนวน 39 ชั้น 257 ห้อง เตรียมเปิดกลางปี2567, อาคารสำนักงาน Central Park Offices พื้นที่ (GBA) 130,000 ตร.ม. เตรียมเปิดไตรมาสสองปี2568, ศูนย์การค้า Central Park พื้นที่ (GBA) 130,000 ตร.ม. เตรียมเปิดไตรมาสสามปี2568; และที่พักอาศัย พื้นที่ขนาด 50,500 ตร.ม. แบ่งเป็น Dusit Residences และ Dusit Parkside เตรียมเริ่มทยอยส่งมอบห้องให้ลูกค้าในปลายปี 2568