อาเซียน-จีนประชุมอัปเกรดความตกลง ACFTA ครั้งที่ 4 ทั้งแบบพบหน้าและออนไลน์ ตั้งเป้าผลักดันการเจรจาให้คืบหน้าเกินครึ่งทางภายในปีนี้ เพื่อสรุปผลให้ได้ภายในปี 67 เผยจีนจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรอบต่อไปช่วงปลายเดือน ม.ค. 67 ที่กรุงปักกิ่ง
น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยได้เข้าร่วมการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA Upgrade Negotiations) ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 25-29 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา ณ เมืองบันดุง สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีนายหวี เปิ่นหลิน อธิบดีกรมเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ เป็นประธานฝ่ายจีน โดยไทยในฐานะประธานร่วมฝ่ายอาเซียนได้ร่วมกับจีนผลักดันให้การเจรจารอบนี้มีความคืบหน้ามากที่สุด ซึ่งตั้งเป้าให้การเจรจาคืบหน้าได้เกินครึ่งทางภายในปีนี้ เพื่อสรุปผลการเจรจาภายในปี 2567 ทั้งนี้ จีนจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรอบต่อไป ในช่วงปลายเดือน ม.ค. 2567 ณ กรุงปักกิ่ง
สำหรับการเจรจารอบนี้ เป็นการประชุมในรูปแบบไฮบริด ทั้งแบบพบหน้าและแบบออนไลน์ ซึ่งประกอบด้วยการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้า (Trade Negotiating Committee) ซึ่งกำกับดูแลและติดตามการเจรจาในภาพรวม และการประชุมคณะทำงานย่อย 11 กลุ่ม ได้แก่ 1. การค้าสินค้า 2. การลงทุน 3. เศรษฐกิจสีเขียว 4. เศรษฐกิจดิจิทัล 5. สุขอนามัยและสุขอนามัยพืช 6. กฎระเบียบทางเทคนิคและกระบวนการตรวจสอบและรับรอง 7. วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย 8. การแข่งขันและการคุ้มครองผู้บริโภค 9. พิธีการทางศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า 10. ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและวิชาการ และ 11. กฎหมายและสถาบัน
ทั้งนี้ อาเซียนและจีนยังมีเป้าหมายปรับปรุงความตกลง ACFTA ให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทย พร้อมทั้งเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างอาเซียนกับจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ในปี 2565 การค้าระหว่างอาเซียนกับจีนมีมูลค่า 715,156.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 6.70% โดยอาเซียนส่งออกไปจีน มูลค่า 288,920.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอาเซียนนำเข้าจากจีน มูลค่า 426,235.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับในช่วง 9 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) การค้าระหว่างไทยกับจีนมีมูลค่า 78,916.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปจีน มูลค่า 26,333.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากจีนมูลค่า 52,583.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ผลไม้สด ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์