ผู้จัดการรายวัน 360 - เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ผนึก พรอนโต้ เปลี่ยนจอหนังไม่ใช้แล้วเป็นกระเป๋าเทรนด์รักษ์โลก “I am Reborn from Screen” เวอร์ชัน 2 สร้างมูลค่าเพิ่มช่วยลดขยะ เปิดพรีออเดอร์ 1 พ.ย.นี้
บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ตระหนักและใส่ใจถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ เน้นการดำเนินธุรกิจภายใต้ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างจริงจังภายใต้แนวคิด “Care for ENVIRONMENT” ผ่านโครงการ “Green Cinema” โรงหนังรักษ์โลก ซึ่งให้ความสำคัญต่อปัญหาขยะ การคัดแยกและการแปรรูป เพิ่มมูลค่าขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ลดการเกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต
นายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินการจัดการปัญหาขยะภายในองค์กรตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy นำทรัพยากรเหลือใช้กลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ได้นำจอหนังที่ไม่ได้ใช้งานแล้วมาผลิตเป็นกระเป๋า เนื่องจากนวัตกรรมการฉายภาพยนตร์ได้เปลี่ยนจากเครื่องฉายระบบดิจิทัลเป็นเครื่องฉายระบบเลเซอร์ จึงต้องเปลี่ยนจอฉายภาพยนตร์ใหม่เป็นจอ Silver Screen เพื่อให้ผู้ชมได้รับชมภาพยนตร์ที่คมชัดมากยิ่งขึ้น
บริษัทฯ จึงนำจอหนังธรรมดาที่เป็นพื้นผ้าพลาสติกมาพัฒนาออกแบบและตัดเย็บเป็นกระเป๋า โดยใช้หลัก Upcycling เปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ช่วยลดการสร้างขยะใม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดเป็น “กระเป๋าจากจอหนัง” ดีไซน์เก๋เพื่อใช้ประโยชน์ที่เป็นแฟชั่นนำเทรนด์สายรักษ์โลกด้วยคอนเซ็ปต์ “I am Reborn from Major Cineplex Screen” เวอร์ชันที่ 1 ออกจำหน่ายครั้งแรกพร้อมกับกระแสตอบรับอย่างดี จำหน่ายไปแล้ว 1,000 ใบ ซึ่งช่วยลดขยะจากจอหนังไปจำนวน 25 จอ
ล่าสุดได้ผนึกความร่วมมือ Collaboration กับแบรนด์ไฮสตรีทแฟชั่นสุดฮิตของเมืองไทย Pronto สร้างงานเอ็กซ์คลูซีฟ กระเป๋าจากจอหนัง “I am Reborn from Major Cineplex Screen” เวอร์ชันที่ 2 ด้วยวัสดุที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นการออกแบบเพื่อใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันที่แตกต่างกันออกไปตามไลฟ์สไตล์ของคนรักหนังที่รักษ์โลกด้วย ซึ่งมีกระเป๋าให้เลือกใช้ด้วยกัน 3 ขนาด ดังนี้
• M-Pouch ราคาใบละ 590 บาท ที่มีขนาดกะทัดรัด ออกแบบโดยอ้างอิงจากบัตร M Pass เน้นใส่ของเล็กๆ เช่น บัตรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน, บัตร ATM, ใบขับขี่, เงินสด หรือที่ขาดไม่ได้เลยคือโทรศัพท์มือถือ สามารถพกไปไหนมาไหนได้ง่ายด้วยการห้อยสายคล้องคอได้
โดยความพิเศษของกระเป๋าใบเล็กในคอลเลกชันเวอร์ชัน 2 นี้ สามารถนำไปคล้องติดเข้ากับกระเป๋าใบกลางและใบใหญ่ได้ ด้วยตัวล็อก Carabiner ที่ทาง Pronto** ไปหาจากแหล่งผลิตที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลจากเกาะเต่า ที่มีชื่อแบรนด์ว่า Plas-Tao หรือพลาสเต่า เป็นโปรเจกต์ของร้านเล็กๆ ของคนในพื้นที่เกาะเต่า ซึ่งจากการเห็นว่าเกาะเต่าไม่มีสินค้าหรือของฝากที่ขึ้นชื่อเหมือนเกาะอื่นๆ จึงมีความคิดว่าขยะจากเกาะเต่านี่แหละจะเป็นของฝากจากที่นี่ เพราะนอกจากจะมีของฝากที่ไม่เหมือนใครแล้ว ยังเป็นการช่วยกันลดขยะในเกาะได้อีกด้วย
• M-Pop ราคาใบละ 1,290 บาท ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากกล่องป็อปคอร์น เป็นกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป บุด้วยผ้าพลาสติก 2 ชั้น เหมาะสำหรับใส่ของที่มากขึ้น เช่น กระเป๋าสตางค์, เพาเวอร์เเบงก์, แว่นตา, เครื่องสำอาง, หมวก, กระติกน้ำ เป็นต้น
• M-Tote ราคาใบละ 990 บาท ที่ถือติดตัวไปไหนได้ตลอดทั้งวัน ตอบโจทย์คนที่ต้องพกพาของใช้ติดตัวเยอะ หรือไปชอปปิ้งระหว่างวัน ใบนี้เอาอยู่เก็บได้สบายๆ สามารถติดสายสะพายเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน หรือถ้าของไม่เยอะก็สามารถถือชิลๆ ได้เลย