ส่งออก ก.ย. 66 ฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำได้มูลค่า 25,476.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 2.1% เป็นบวก 2 เดือนติดต่อกัน เผยสินค้าเกษตรเพิ่ม 12% อุตสาหกรรมเกษตรเพิ่ม 5.4% ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมกลับมาลด 0.3% รวม 9 เดือนติดลบเหลือ 3.8% คาด 3 เดือนที่เหลือปีนี้การส่งออกยังดีขึ้นต่อเนื่อง ลุ้นทั้งปีติดลบน้อยลง
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน ก.ย. 2566 มีมูลค่า 25,476.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.1% เป็นบวกต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อกัน เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 888,666 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 23,383.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 8.3% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 825,310 ล้านบาท ได้ดุลการค้ามูลค่า 2,092.7 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 63,355 ล้านบาท รวมการส่งออก 9 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่า 213,069.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 3.8% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 7,268,400 ล้านบาท นำเข้ามูลค่า 218,902.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 6% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 7,558,144 ล้านบาท ขาดดุลการค้า มูลค่า 5,832.7 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 289,400 ล้านบาท
ทั้งนี้ การส่งออกของไทยเดือน ก.ย. 2566 ที่กลับมาเป็นบวกได้ 2.1% เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ถือว่าไทยทำได้ดี โดยอินเดีย ลบ 2.6% เกาหลีใต้ ลบ 4.4% จีน ลบ 6.2% สิงคโปร์ ลบ 9.5% มาเลเซีย ลบ 16.2% และอินโดนีเซีย ลบ 16.2% แต่เวียดนาม กลับมาบวกเช่นเดียวกับไทย โดยเพิ่มขึ้น 2.1%
สำหรับการส่งออกที่เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตร 12% เป็นบวก 2 เดือนติด และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 5.4% เป็นบวกครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม กลับมาลดลง 0.3% และด้านตลาดส่งออกสำคัญ ตลาดหลัก ลด 4.2% โดยสหรัฐฯ ลด 10% ญี่ปุ่น ลด 5% CLMV ลด 18.1% และสหภาพยุโรป (27) ลด 9.3% ส่วนจีนและอาเซียน (5) เพิ่ม 14.4% และ 4.1% ตลาดรอง เพิ่ม 10.5% โดยเอเชียใต้ เพิ่ม 7.8% แอฟริกา เพิ่ม 23% ละตินอเมริกา เพิ่ม 4.6% และรัสเซียและกลุ่ม CIS เพิ่ม 33.9% ขณะที่ทวีปออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และสหราชอาณาจักร ลด 11.8% 5.9% และ 15% ตลาดอื่นๆ เพิ่ม 423.6% เช่น สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่ม 749.8%
นายกีรติกล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ (ต.ค.-ธ.ค.) ตัวเลขน่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่าจะติดลบน้อยกว่าที่หลายสำนักได้คาดการณ์เอาไว้ โดยมีปัจจัยบวกจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เร่งแก้ไขปัญหาและผลักดันการส่งออก มีการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารเพิ่มขึ้นจากภาวะภัยแล้ง ค่าเงินบาทที่ทรงตัวขณะนี้ เป็นตัวช่วย และยังมีเรื่องการนำเข้าสินค้าเพื่อใช้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ทำให้การส่งออกดีขึ้น โดยทั้งปีแม้จะไม่พลิกกลับมาเป็นบวก แต่เชื่อว่าจะทำให้ติดลบน้อยลงได้ และเมื่อทำเต็มที่แล้ว จะบวก หรือจะลบ ก็ไม่เสียใจ ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตา คือราคาน้ำมัน และปัญหาอิสราเอล ถ้าขีดวงอยู่ก็ไม่มีผลต่อการขนส่ง แต่ถ้าขยายวงก็น่าคิด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้มีการหารือกับภาคเอกชนเพื่อเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้าแล้ว
ทั้งนี้ การส่งออกทั้งปีถ้าติดลบ 1% ช่วงที่เหลือ 3 เดือนต้องส่งออกให้ได้เฉลี่ยเดือนละ 23,827 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 0% ต้องส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 24,785 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถ้าบวก 1% ต้องส่งออกเฉลี่ย 25,743 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การส่งออกในเดือน ก.ย. 2566 ที่ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ และจากสถานการณ์ตอนนี้ ประเมินว่าทั้งปีน่าจะติดลบประมาณ 1%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การส่งออกเดือน ก.ย. 2566 ที่เพิ่มขึ้น 2.1% เป็นการกลับมาเป็นบวกต่อเนื่องติดต่อกัน 2 เดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้การส่งออกติดลบต่อเนื่องมาแล้ว 10 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2565 ที่ลดลง 4.2% พ.ย. 2565 ลด 5.6% ธ.ค. 2565 ลด 14.3% ม.ค. 2566 ลด 4.6% ก.พ. 2566 ลด 4.8% มี.ค.ลด 4.2% เม.ย. 2566 ลด 7.7% พ.ค.ลด 4.6% มิ.ย. ลด 6.5% ก.ค.ลด 6.2% และกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในเดือน ส.ค. 2566 ที่ 2.6%


