“สุรพงษ์” สั่งเร่งเครื่องเปิดเดินรถ "สีชมพู" คาด ธ.ค. 66 ให้ ปชช.ร่วมทดลองนั่งฟรี ไม่เบรก "สีส้ม" ย้ำรอศาลตัดสินคดีสุดท้าย ไม่ผิดพร้อมชง ครม. ส่วน "น้ำตาล-ม่วงใต้" ศึกษาเพิ่ม ค่าโดยสาร 20 บาทอีก 2 เดือนสรุป
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่า ได้ดูเรื่องผลประกอบการและแผนงานลงทุนโครงการต่างๆ โดยเน้นย้ำให้ดำเนินการเป็นไปตามแผนงาน และให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายในกรอบเวลาที่ชัดเจน พร้อมทั้งเร่งรัดการเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี (MRT สายสีชมพู) ให้เร็วขึ้น (จากแผนเปิดให้บริการภายในเดือนมิถุนายน 2567) โดย รฟม.คาดว่าจะสามารถให้ประชาชนร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) ในเดือน ธ.ค. 2566 โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นจะสามารถเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์เก็บค่าโดยสารได้ช่วงต้นปี 2567
สำหรับกรณีการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่ง รฟม. ยืนยันว่าได้ดำเนินการคัดเลือกตามกระบวนการตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง, ระเบียบพัสดุ และ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 อย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว ดังนั้นต้องรอการพิจารณาของศาลปกครองว่าจะตัดสินอย่างไร ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้
ส่วนประเด็นทางการเมืองหรือข้อวิจารณ์กรณีส่วนต่างตัวเลขผลตอบแทนต่างๆ นั้น เป็นข่าวที่เกิดขึ้นตามสื่อต่างๆ สำหรับตนเองนั้นยังไม่มีรายละเอียดเอกสาร กรณีปัญหาของรถไฟฟ้าสายสีส้ม ทั้งนี้หากมีคำพิพากษาตัดสินออกมาอย่างไรขั้นตอนต่อไปคือการนำเสนอ ครม. พิจารณาเห็นชอบตามขั้นตอน
“วันนี้ผมมาให้นโยบายและรับทราบปัญหาของ รฟม. ในวาระไม่มีประเด็นเรื่องสีส้มก็แสดงว่าไม่มีปัญหา”
@รถไฟฟ้า 20 บาท แบ่ง 2 กลุ่มโครงการของรัฐทำได้เลย เหลือกลุ่มร่วมทุนฯ ต้องรอเจรจา
นายสุรพงษ์กล่าวว่า เรื่องนโยบายของรัฐบาล เรื่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นั้น แบ่งโครงการรถไฟฟ้าเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่เป็นของรัฐซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันทีคือสายสีแดง และสายสีม่วง ส่วนกลุ่มที่เป็นสัมปทานร่วมลงทุนจะต้องมีการเจรจาจัดทำข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งนโยบายจะพยายามดำเนินการภายใน 2 ปี
ทั้งนี้ ให้ รฟม.ติดตามประเมินความคุ้มค่าด้านจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มมาในระบบเปรียบเทียบกับรายได้ หลังจากดำเนินมาตรการลดค่าโดยสารของรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) แล้ว และในระยะต่อไปให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ร่วมกับ รฟม.ศึกษาแนวทางและจัดทำข้อเสนอแนะในเชิงนโยบายที่เหมาะสมสำหรับการกำหนดอัตราค่าโดยสาร โดยอยู่บนพื้นฐานที่ไม่เป็นภาระทางการเงินของหน่วยงานภาครัฐในอนาคต ควบคู่กับการจัดทำแผนในการเพิ่มประสิทธิภาพในการหารายได้เพิ่มเติม
“สายสีม่วง จุดคุ้มทุนจะต้องมีผู้โดยสาร 1.5 แสนคน/วัน แต่ปัจจุบันมี 7 หมื่นคน/วัน ส่วนกรณี 20 บาท ผู้โดยสาร แล้วมีอีสานเกิน 1.5 แสนคน /วันได้ ก็จะลดการชดเชยของรัฐได้ อย่ากังวลเรื่องชดเชย นโยบายเรามุ่งเน้น การจูงใจผู้ใช้บริการเพิ่ม รอช่วงโรงเรียนเปิด นักท่องเที่ยวเพิ่ม จะช่วยให้ผู้โดยสารเพิ่ม และการชดเชยจะลดลง”
@รถไฟฟ้า "น้ำตาล-ม่วงใต้" ศึกษาเพิ่ม ค่าโดยสาร 20 บาทอีก 2 เดือนสรุป
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ขณะนี้ รฟม.มีแผนการลงทุนโครงการรถไฟฟ้า 3 โครงการ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่งอยู่ในขั้นตอนเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบผลการคัดเลือกผู้ร่วมลงทุน โดย รฟม.ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ครบถ้วนแล้ว และสรุปเสนอกระทรวงคมนาคม และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว แต่เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเห็นให้รอผลคำพิพากษากรณีมีข้อผิดพลาดให้เสร็จสิ้นกระบวนการเรียบร้อยก่อน
ปัจจุบันข้อพิพาทรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส) ยื่นฟ้องคดีต่อคณะกรรมการคัดเลือก ตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ 2562 และ รฟม. 3 คดีนั้น ศาลปกครองสูงสุดมีคำตัดสินพิพากษายกฟ้องแล้ว 2 คดี คงเหลือ 1 คดี เรื่อง เปิดประมูลคัดเลือกรอบใหม่ TOR กีดกัน ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องแล้วอยู่ในขั้นตอนอุทธรณ์ ซึ่งไม่สามารถกำหนดได้ว่าศาลจะพิพากษาชี้ขาดเมื่อใด คาดการณ์เบื้องต้นว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน
ทั้งนี้ กรณีสายสีส้มด้านตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) การก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ 100% แล้วจำเป็นต้องเร่งรัดในส่วนของการเดินรถซึ่งมีแนวทาง เช่น เจรจากับผู้รับสัญญาเดินรถ ให้เร่งดำเนินการวางระบบและผลิตตัวรถเหลือภายใน 24 เดือนได้หรือไม่ เพื่อเปิดเดินรถด้านตะวันออกโดยเร็วที่สุด
ส่วนกรณีอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาลนั้น เนื่องจากสายสีส้ม ผ่านขั้นตอนการเจรจาตามพ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ ครบถ้วนแล้ว ทั้งนี้ หากเสนอครม.แล้วมีนโยบายเรื่อง อัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย สามารถมอบหมายให้รฟม. กลับมา ดำเนินการ เจรจากับเอกชนในประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติมได้
2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) เป็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) ยกระดับตลอดเส้นทาง มีระยะทางรวม 22.1 กม. มูลค่าลงทุนรวม 41,720 ล้านบาท ซึ่งสรุปรายงานผลการศึกษาแล้ว โดยกระทรวงคมนาคมมีความเห็นให้ศึกษาเรื่องอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายนโยบายรัฐบาลเพิ่มเติม เพื่อวิเคราะห์แผนการเงินประกอบการเสนอโครงการ เพราะเกี่ยวข้องกับรายได้ของโครงการและเงื่อนไขที่รัฐต้องอุดหนุนค่าลงทุนงานโยธากับเอกชนด้วย
โดยผลการศึกษาเดิมกำหนดอัตราค่าโดยสารตามมาตรฐานการศึกษาปกติเริ่มต้น 15 บาท สูงสุด 45 บาท กรณีศึกษา ใช้อัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย จะศึกษาตัวเลข อุดหนุนค่างานโยธากับเอกชนมากกว่าเดิม คาดใช้เวลาศึกษาอีกประมาณสองเดือนสามารถสรุปได้ภายในเดือนธันวาคม 2566 เพื่อนำเสนอบอร์ด รฟม.พิจารณา จากนั้นเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอ ครม.ในเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2567
3. การเดินรถสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) รูปแบบ PPP ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดเพื่อจัดทำเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) จัดหาเอกชนบริหารเดินรถไฟฟ้า โดยจะศึกษาเรื่องอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายนโยบายรัฐบาลเพิ่มเติมด้วย คาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จเพื่อเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.พิจารณาเห็นชอบภายในปีนี้ หลังจากนั้นจะต้องเสนอ ยังกระทรวงคมนาคมในเดือน ม.ค. 2567 และเสนอคณะกรรมการ PPP และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามขั้นตอนเอกชนร่วมลงทุนรัฐฯ ต่อไป