เริ่มวันนี้! "สุริยะ" เปิดใช้ค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ประเดิม 2 เส้นทาง "MRT สายสีม่วง" และ "สายสีแดง" ลดค่าครองชีพให้ประชาชน เร่งตั้ง กก.เจรจาสัมปทาน ยันใน 2 ปีใช้ได้ทุกสายสีแดง คาดผู้โดยสารเพิ่ม 20%
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (16 ต.ค. 2566) ว่า ตามที่ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท (นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย) ซึ่งถือเป็นนโยบาย Quick Win นโยบายแรก ตามที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงกับพี่น้องประชาชน และตน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เร่งรัดทุกหน่วยงานให้ทำงานอย่างเร็วที่สุดตามที่ท่านนายกฯ ได้เคยกล่าวไว้
ทั้งนี้ รัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคม จึงประกาศใช้นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย หรือปรับลดจากอัตราค่าโดยสารปัจจุบัน เริ่มต้น 14 บาท สูงสุดไม่เกิน 42 บาท เหลืออัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 20 บาทเฉพาะของแต่ละสาย ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ (16 ต.ค. 2566) เป็นต้นไป โดยจะนำร่อง 2 โครงการ คือ 1. โครงการรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร (กม.) จำนวน 16 สถานี และ 2. โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน (สายธานีรัถยา) ระยะทาง 26 กม. จำนวน 10 สถานี และช่วงบางซื่อ-รังสิต (สายนครวิถี) ระยะทาง 15 กม. จำนวน 4 สถานี
นายสุริยะกล่าวว่า วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของรัฐบาล ซึ่งตน และผู้บริหารกระทรวงคมนาคม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้เดินทางมาที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งเป็นสถานีต้นสายของโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ที่จะเริ่มประกาศใช้นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเฉพาะของแต่ละสายก่อนในวันนี้ จากเดิมเคยประกาศไว้ว่าจะเริ่มใช้นโยบายในช่วงปลายปี 2566 เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่ประชาชน แต่ด้วยภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น จากสถานการณ์ความวุ่นวายในต่างประเทศที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน มีผลโดยตรงต่อผู้ใช้รถยนต์
ดังนั้น กระทรวงคมนาคมจึงได้เร่งรัดดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว และเริ่มประกาศใช้ในวันนี้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้โดยสาร รวมถึงประหยัดเวลา และจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะระบบรางมากขึ้น ช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ด้วย ตามนโยบาย "Transport Future for All: คมนาคมแห่งอนาคต เพื่อประชาชนทุกคน" การคมนาคมที่ไม่ใช่เพียงแค่การเดินทาง แต่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมและโลก เพื่อคนรุ่นหลังอย่างยั่งยืนตลอดไป
@ ตั้ง กก.เจรจาสัมปทาน ยัน 2 ปีใช้ได้ทุกสาย
นายสุริยะกล่าวว่า ขณะที่ในเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่นๆ นั้น หลังจากนี้กระทรวงคมนาคมจะแต่งตั้งคณะกรรมการเจรจาร่วมกับภาคเอกชน เพื่อดำเนินการนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายให้ครอบคลุมโครงข่ายในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลในทุกเส้นทาง ตามเป้าหมายภายใน 2 ปีนับจากนี้ต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมความพร้อม ทั้งในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกบนสถานี เช่น ลิฟต์ บันไดเลื่อน ให้มีความปลอดภัย
นอกจากนี้ มอบหมายให้ติดตั้งป้ายแนะนำการใช้บริการ รวมถึงจัดเตรียมเจ้าหน้าที่คอยดูแลความสะดวกในการเดินทาง และประชาสัมพันธ์ ให้คำแนะนำประชาชนที่มาใช้บริการ พร้อมทั้งให้ประเมิน และเก็บข้อมูลผลการดำเนินงานการเปิดใช้นโยบาย เพื่อวิเคราะห์ถึงปัญหาและอุปสรรค ก่อนนำไปปรับปรุงการให้บริการ โดยให้รายงานผลมายังกระทรวงคมนาคมทุกเดือน
@ MRT สีม่วง ใช้ได้ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เริ่มต้น 14 บาท สูงสุด 20 บาท
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง (สถานีคลองบางไผ่-สถานีเตาปูน) จะเริ่มใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ จ่ายสูงสุด 20 บาท (จากอัตราเดิมจ่ายสูงสุด 42 บาท) ในวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป ทั้งนี้ อัตราค่าโดยสารสำหรับบุคคลทั่วไป 14-20 บาท เด็ก/ผู้สูงอายุ 7-20 บาท และนักเรียน/นักศึกษา 13-20 บาท
นอกจากนี้ กรณีที่ผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงของ รฟม.เดินทางเชื่อมต่อกับรถไฟชานเมืองสายสีแดง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่สถานีบางซ่อน โดยใช้บัตร EMV Contactless ใบเดียวกันในการชำระค่าโดยสาร และเปลี่ยนถ่ายระบบภายในระยะเวลา 30 นาที จะชำระค่าโดยสารทั้งสองสายรวมกัน สูงสุด 20 บาท โดยจะเริ่มดำเนินมาตรการหลังจากพัฒนาเชื่อมต่อระบบ EMV Contactless แล้วเสร็จ
@ สายสีแดงคาดผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 20%
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีมติเห็นชอบให้รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ทั้ง 2 เส้นทาง ได้แก่ สายธานีรัถยา ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีรังสิต และสายนครวิถี ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีตลิ่งชัน รวมระยะทาง 41 กิโลเมตร กำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดง 20 บาทตลอดสาย หรือเริ่มต้น 12 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล โดยจะเริ่มวันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม 2566 ทั้งนี้ หลังจากปรับค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งจะมีการประเมินโครงการเป็นรายปี เพื่อประเมินผลการดำเนินงาน ทั้งด้านตัวเลขผู้โดยสาร รายได้ รวมถึงจุดคุ้มทุนที่ไม่ต้องชดเชยรายได้ในอนาคต เพื่อเสนอกระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง และคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีแดงมีปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 25,000 คนต่อวัน ซึ่งคาดว่านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาลจะช่วยให้ปริมาณผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่า ร้อยละ 20 และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนโยบายดังกล่าว จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนที่ใช้รถยนต์หันมาใช้บริการระบบรถไฟฟ้าตลอดจนระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ช่วยลดการใช้พลังงาน ลดมลพิษทางอากาศ ทำให้เกิดประโยชน์ด้านการขนส่ง และด้านอื่นๆ เช่น ลดระยะเวลาการเดินทางบนท้องถนน ช่วยลดปัญหาปริมาณฝุ่น PM 2.5 ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน ลดค่าใช้จ่ายทางสุขภาพของประชาชน รวมถึงลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เป็นต้น
รายละเอียดเงื่อนไขค่าโดยสารนั้น กำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดง อัตราสูงสุดไม่เกิน 20 บาทตลอดสาย (จากอัตราค่าโดยสารปัจจุบัน สูงสุด 42 บาท) ตลอดระยะเวลาเปิดให้บริการ ตั้งแต่ 05.00-24.00 น. ผู้โดยสารทั่วไปที่เดินทางตามระยะทางที่มีมูลค่าไม่เกิน 20 บาท ชำระค่าโดยสารตามจริง สำหรับผู้โดยสารที่ได้รับสิทธิ์ลดหย่อน ที่เดินทางตามระยะทางมีมูลค่าการเดินทางมากกว่า 20 บาท ชำระค่าเดินทางเพียง 20 บาทเท่านั้น และผู้โดยสารที่ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนที่เดินทางตามระยะทางมีมูลค่าเดินทางไม่เกินราคา 20 บาท คงได้รับสิทธิ์ลดหย่อนตามปกติ
ทั้งนี้ เด็ก ผู้สูงอายุ และพระภิกษุ ยังคงได้รับส่วนลด 50% ส่วนนักเรียนและนักศึกษา ยังคงได้รับส่วนลด 10% จากอัตราค่าโดยสารเดิม โดยจะมีมูลค่าการเดินทางสูงสุดไม่เกิน 20 บาท แต่สำหรับผู้ที่ถือบัตรโดยสารประเภทบัตรเหมาจ่าย” TRANSIT PASS RED LINE X BMTA ที่เดินทางด้วยรถไฟชานเมืองสายสีแดง และรถโดยสาร ขสมก.จะไม่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมในโครงการดังกล่าว ผู้โดยสารสามารถอยู่ในระบบรถไฟฟ้าได้ไม่เกิน 120 นาที หากอยู่ในระบบเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนด จะคิดค่าธรรมเนียมอยู่เกินเวลาตามอัตราค่าโดยสารสูงสุด คือ 42 บาท