กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจับมือคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา ลงพื้นที่จังหวัดน่าน พูดคุยเกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้า Future Food กาแฟ มะแขว่น เครื่องเงิน และผ้าทอ แนะนำสร้างความแตกต่างให้สินค้า ผลิตให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค และชี้ช่องใช้ประโยชน์จาก FTA เพิ่มแต้มต่อขยายส่งออก
น.ส.บุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการดำเนินโครงการเตรียมความพร้อมให้รัฐสภาและบุคลากรส่วนท้องถิ่น เรื่อง “โลกการค้าเสรี” ระหว่างวันที่ 28-30 ก.ย. 2566 ณ จังหวัดน่าน ว่า กรมได้รับเกียรติจากนางอภิรดี ตันตราภรณ์ ประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา และ น.ส.วิบูลลักษณ์ ร่วมรักษ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา ลงพื้นที่พบหารือเกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้าถั่วลิสง และมะแขว่น ซึ่งเป็นสินค้า Future Food รวมทั้งกาแฟน่านดูโอ เครื่องเงินชมพูภูคา และผ้าทอน่านบุรี เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการเปิดเสรีทางการค้า และเร่งใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ขยายส่งออกตลาดต่างประเทศ
การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้พบหารือผู้ประกอบการสินค้าถั่วลิสงแปรรูป อำเภอเมืองน่าน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ผลิตสินค้า Future Food แหล่งโปรตีนทดแทนเนื้อสัตว์ พบว่ามีการใช้ประโยชน์จาก FTA ส่งออกถั่วลิสงต้มและตากแห้งไปตลาดมาเลเซีย โดยปัจจุบันคู่ค้า FTA 18 ประเทศ ได้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าถั่วลิสงจากไทยทุกรายการแล้ว
สำหรับการพบหารือกับห้างหุ้นส่วนจำกัด หอมเครื่องฟู๊ด อำเภอเมืองน่าน ซึ่งมีผลิตภัณฑ์มะแขว่นแปรรูป เช่น ซอส น้ำพริก และผงโรยข้าว ได้แนะนำเรื่องการประชาสัมพันธ์สินค้ามะแขว่นให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพและตลาดวีแกนที่มีโอกาสเติบโตสูง
ส่วนการพบหารือกับห้างหุ้นส่วนจำกัด น่านดูโอ คอฟฟี่ อำเภอเวียงสา ผู้ผลิตกาแฟอะราบิกาและโรบัสตา ได้แนะนำให้ยกระดับการผลิตเมล็ดกาแฟที่มีมาตรฐาน GAP และการสร้างความแตกต่างของสินค้า เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
ขณะที่การพบหารือกับผู้ประกอบการเครื่องเงินชมพูภูคา ได้แนะนำเรื่องการใช้ประโยชน์จาก FTA ที่ประเทศคู่ค้า 18 ประเทศ ได้ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเครื่องเงินจากไทยแล้ว จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะใช้ประโยชน์จาก FTA สร้างแต้มต่อขยายตลาดส่งออก และใช้ความได้เปรียบเรื่องการเป็นผู้นำด้านการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไปตลาดโลก
ทางด้านการพบหารือกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ผ้าน่านบุรี อำเภอเมืองน่าน ผู้ผลิตสินค้าผ้าทอพื้นเมืองและเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งดึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมมาเป็นจุดขาย ได้ให้คำแนะนำเรื่องการออกแบบสินค้าให้มีความร่วมสมัยตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในปัจจุบัน และสามารถใช้ Soft Power ผลักดันสินค้าผ้าไทยขยายส่งออกไปตลาดต่างประเทศ
“จังหวัดน่านมีจุดแข็งของสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป ที่ดำเนินการขับเคลื่อนโดยคลัสเตอร์ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ใช้นวัตกรรมมาช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า มีความเข้าใจตลาดและความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงมีความพร้อมใช้ FTA เป็นเครื่องมือเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าและเข้าสู่ตลาดการค้าเสรี” น.ส.บุณิกากล่าว