SPCG ลุ้นใบอนุญาตเดินหน้าโครงการโซลาร์ EEC ขนาด 500 เมกะวัตต์ พร้อมลุยเฟสแรก 300 เมกะวัตต์ จับมือ INNOPOWER ซื้อขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน
นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยความคืบหน้าการพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์ม เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ขนาดกำลังการผลิต 500 เมกะวัตต์ (MW) ว่า บริษัทได้จัดซื้อที่ดินแล้ว 3,000 ไร่ กระจายในพื้นที่ 3 จังหวัด ทั้งฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติใบอนุญาตจากสำนักงาน EEC เมื่อได้รับใบอนุญาตแล้วก็พร้อมเดินหน้าติดตั้งโซลาร์ฯ เฟสแรก 300 เมกะวัตต์ได้ทันที ใช้เงินลงทุน 12,000 ล้านบาท หลังจากนั้นติดตั้งเฟสที่ 2 อีก 200 เมกะวัตต์ ใช้งบลงทุนประมาณ 8,000 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้ทั้งโครงการรวม 2,000 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) โดยบริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด (SPR) ขณะนี้ยอดติดตั้งครบ 120 เมกะวัตต์แล้ว ส่งผลให้รายได้ปีนี้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,000 ล้านบาท โดยยังอยู่ระหว่างเจรจาและลงนามสัญญาเพิ่ม ตั้งเป้าไว้ที่ 250 เมกะวัตต์
ส่งผลให้ผลประกอบการบริษัทในปี 2566 มีรายได้เติบโตกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,471 ล้านบาท มาจากการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปและบันทึกรายได้โครงการโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
ส่วนกรณีที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายปรับลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วยนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อ SPCG แต่การแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าระยะยาวจะต้องไปปรับโครงสร้างการผลิตไฟฟ้าให้เหมาะสม
ทั้งนี้ บริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลงสัญญาซื้อขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) ร่วมบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด (INNOPOWER) บริษัทในเครือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงาน โดย INNOPOWER จะเป็นผู้แทนในการบริหารจัดการและซื้อขายเเลกเปลี่ยน REC ในระยะเวลา 5 ปี โดย SPCG คาดว่าโรงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) ทั้ง 36 โครงการในประเทศไทย รวมกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ของบริษัทนั้นจะสามารถออก REC ได้ประมาณ 370,000 RECs ต่อปี
