BCP มั่นใจผลดำเนินงานครึ่งปีหลังโตขึ้น ผลพวงราคาน้ำมันโลกพุ่งหนุนค่าการกลั่นดีดขึ้น และรับรู้กำไรของ ESSO ช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้
นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บมจ.บางจากคอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งหลังปี 2566 ว่า บริษัทคาดว่ากําไรในช่วงปลายปีนี้เติบโตดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิ 3,199 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลทำให้ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและธุรกิจการตลาดคาดว่ามีกำไรจากสต๊อกน้ำมันจากครึ่งปีแรกที่ขาดทุน inventory loss รวมทั้งรับรู้รายได้และกำไรจากการเข้าถือหุ้นใหญ่ 65.99% ใน บ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) (ESSO) ส่งผลให้ปี 2566 บางจากมั่นใจมีกำไรสุทธิเติบโตดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12,575 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากแยกตามธุรกิจ พบว่าขณะนี้ธุรกิจโรงกลั่นได้ปัจจัยหนุนจากค่าการกลั่นสิงคโปร์ (GRM) ที่มีทิศทางปรับสูงขึ้นต่อเนื่องจากเดือนสิงหาคม 2566 ที่เฉลี่ย 13 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มจากครึ่งปีแรก GRM สิงคโปร์เฉลี่ยอยู่ที่ 6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และค่าการกลั่นบางจากฯอยู่ที่ 8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล คาดว่าครึ่งปีหลังนี้พลิกมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันเกือบ 6,000 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกบริษัทขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันราว 3,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มมีการรับรู้รายได้และกำไรของ ESSO เข้ามาในเดือน ก.ย.นี้ แม้ว่าโรงกลั่นศรีราชามีการหยุดซ่อมบำรุง 45 วัน แต่จะกลับมาเดินเครื่องผลิตอีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งบางจากประเมินว่าการเข้าซื้อ ESSO จะสร้าง EBITDA Synergies ในปี 2568 ราว 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโรงกลั่น 1,000 ล้านบาท/ปี, โลจิสติกส์ 200 ล้าน/ปี, Marketing Network 300 ล้านบาท/ปี และ Corporate Cost Saving ราว 1,500 ล้านบาท/ปี
ส่วนธุรกิจการตลาดน้ำมันในครึ่งปีหลังนี้คาดปริมาณการจำหน่ายน้ำมันจะเติบโตราว 8-10% เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของการเดินทาง และจำนวนสถานีบริการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาดภายใต้ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) จะเริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานจากการเข้าไปลงทุนในโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ คิดกำลังการผลิตรวม 857 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้ฯ ตั้งแต่ไตรมาส 3/2566 รวมถึงการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาว ไปยังการไฟฟ้าเวียดนาม (Vietnam Electricity - EVN) ตามสัญญาซื้อขายไฟ หลังจากครึ่งปีแรกได้หยุดผลิตไฟฟ้าไป
ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพภายใต้ บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) ทิศทางครึ่งปีหลังนี้มีทิศทางดีขึ้น โดยจะเห็นการขาย B100 และเอทานอลให้ ESSO ในช่วงปลายปีนี้ ทำให้ยอดขายของเอทานอลเพิ่มขึ้น
กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ พบว่า บริษัท OKEA มีการเติบโตต่อเนื่องจากปริมาณผลผลิต (Production volume) ที่เพิ่มขึ้น 50% จากเดิม 16,000 บาร์เรล/วันในปี 2565 คาดว่าในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นแตะ 40,000 บาร์เรล/วัน หลังจากคาดว่าจะปิดดีลซื้อแหล่งปิโตรเลียม Statfjord ในทะเลเหนือ สัดส่วน 28% ได้ในช่วงปลายปีนี้