“ภูมิธรรม” เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย “นภินทร” ย้ำเรื่องใดเป็นปัญหาประชาชน เป็นเรื่องเร่งด่วน ทำได้ก่อนจะทำทันที เตรียมลุยดูแลปากท้อง ค่าครองชีพ ผลักดันส่งออก ส่วนการดูแลสินค้าเกษตรขอพิจารณาก่อน ด้านเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะลุยเต็มที่ เผยนัดมอบนโยบาย 14 ก.ย.นี้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า วันนี้จะมีการหารือกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ทั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์ อธิบดีกรมต่างๆ เพื่อรับฟังรายละเอียดการทำงาน รับฟังความคิดเห็น โดยมีแนวทางการทำงาน คือ ร่วมมือกันเป็นทีม ทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และข้าราชการ และจะยึดนโยบายเร่งด่วนของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ย้ำว่า เรื่องใดที่เป็นปัญหาประชาชน และทำได้ก่อน ก็ให้ทำทันที เพราะประชาชนลำบาก ถ้าระเบียบขัดขวางก็ต้องแก้
สำหรับเรื่องเร่งด่วน เช่น การดูแลค่าครองชีพให้แก่ประชาชน การดูแลราคาสินค้า ที่จะต้องจัดการให้เหมาะสม แต่จะยึดหลักผู้ประกอบการต้องอยู่ได้ ถ้าอยู่ไม่ได้ มีปัญหา ประชาชน ก็ต้องอยู่ได้ ถ้าอยู่ไม่ได้ ก็มีปัญหา ต้องหาจุดสมดุล ส่วนเรื่องการส่งออก ที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่าขยายตัวติดลบมาต่อเนื่อง จะต้องเร่งหาตลาดใหม่ โดยทำงานเชิงรุก ทั้งกระทรวงพาณิชย์และทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ที่จะต้องหาช่องทางขายสินค้า ซึ่งจะขอดูก่อน และหารือกันว่าจะช่วยกันยังไง ทำอะไรได้อีก
ส่วนนโยบายการดูแลสินค้าเกษตร จะนำนโยบายรับจำนำกลับมาใช้หรือไม่นั้น ยังไม่ขอตอบ แต่ทุกนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตร มีทั้งมีข้อดี ข้อเสีย ไม่ได้ยึดติดอะไร อะไรที่ดีก็ทำต่อ อะไรที่ไม่ดีก็ปรับปรุง จะพิจารณาตามความเหมาะสม ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จะเดินหน้าต่อไปเพื่อขยายตลาดให้กับไทย โดยมีกรอบการเจรจาหลายฉบับที่ใกล้จะสำเร็จ ส่วนการทำข้อตกลงการค้ากับรัฐและมณฑล หากเป็นสิ่งที่ดี ก็เดินหน้า ถ้าไม่ดีขอทบทวน
ทั้งนี้ การแบ่งงานกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้แบ่ง เพราะต้องหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ก่อน กำหนดไว้วันที่ 14 ก.ย. 2566 ที่จะมีการมอบนโยบายการทำงานด้วย ส่วนรัฐมนตรี ที่เดิมจะมี 3 คน (อีกคน คือ นายไผ่ ลิงค์ จากพรรคพลังประชารัฐ) และตอนนี้เหลือ 2 คน ก็ทำงานได้ เพราะเรามีแบ็กอัพ คือ ข้าราชการมืออาชีพ เชื่อว่ามีปัญหาอะไรก็รับมือได้ ส่วนคนที่ 2 จะมาเมื่อไร ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี และพรรคการเมืองนั้นๆ
นายภูมิธรรมกล่าวว่า การแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 11 ก.ย. 2566 ที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ามีหลายประเด็นไม่มีการบรรจุไว้ในคำแถลงของรัฐบาล ยืนยันว่า นโยบายที่ได้มีการหาเสียงไว้ อะไรที่รับปากไว้จะทำให้ได้ ไม่ผิดคำสัญญากับประชาชน แต่ที่เห็นในนโยบายรัฐบาล เป็นกรอบกว้างๆ ครอบคลุมทุกประเด็นอยู่แล้ว หากสงสัยให้สอบถามรัฐมนตรีในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ไม่ต้องบรรจุในคำแถลงของรัฐบาลทั้งหมด และขอให้เชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมกันทำงาน เพราะหากบรรจุไปทั้งหมด อาจจะใช้เวลาแถลงนโยบายต่อรัฐสภา 3 วันก็ไม่จบ
สำหรับกรณีนโยบายดิจิทัลวอลเลต ยืนยันว่ารัฐบาลจะทำแน่นอนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยทุ่มงบประมาณกว่า 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในช่วง 6 เดือน โดยใช้ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน และจะทำให้ประชาชนสามารถเรียนรู้เปลี่ยนมาใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์และใช้ได้อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ
