กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เฟ้นหาธุรกิจน้ำดีที่มีธรรมาภิบาล เพื่อมอบโล่รางวัลและหนังสือรับรองให้ในพิธีเชิดชูเกียรติธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ ประจำปี 2566 พร้อมจัดโล่รางวัลพิเศษด้าน BCG ให้ธุรกิจที่ดำเนินงานตามโมเดลเศรษฐกิจของรัฐบาล
วันนี้ (6 ก.ย.) นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเชิดชูเกียรติธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ ประจำปี 2566 ว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้าส่งเสริมพัฒนาภาคธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยหล่อหลอมให้ธุรกิจมีมาตรฐานด้านธรรมาภิบาล ไม่มุ่งแสวงหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งการใช้นวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตตามแนวโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของรัฐบาล ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นจุดแข็งและข้อแตกต่างที่ได้เปรียบในการแข่งขัน
“กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินกิจกรรมสร้างธุรกิจ SME เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน มีธุรกิจผ่านเกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจทั้งสิ้นจำนวน 281 ราย และในปี 2566 นี้มีธุรกิจรายใหม่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศทั้งสิ้นจำนวน 114 ราย โดยมาจากภาคการผลิต การบริการ การเกษตร และการค้าส่ง-ค้าปลีก และสามารถผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการกำกับมาตรฐานธรรมาภิบาล ซึ่งมีผู้แทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมธุรกิจให้มีธรรมาภิบาลเป็นกรรมการทำหน้าที่กำหนดเกณฑ์การตรวจประเมิน 6 หลัก ได้แก่ 1) หลักนิติธรรม 2) หลักคุณธรรม 3) หลักความโปร่งใส 4) หลักการมีส่วนร่วม 5) หลักความรับผิดชอบ และ 6) หลักความคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนการกลั่นกรองอีกหลายลำดับชั้น ทั้งด้านงานตรวจสอบเอกสาร การสัมภาษณ์ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท การลงพื้นที่ตรวจประเมิน ณ สถานประกอบการ การตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง เช่น ศาลฎีกา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม จนได้ธุรกิจน้ำดีที่ผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจทั้งสิ้นจำนวน 89 ราย แบ่งเป็นธุรกิจรายใหม่ 29 ราย และธุรกิจที่ครบระยะเวลาต่ออายุหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจอีก 60 ราย”
อธิบดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การประเมินจะได้รับโล่และหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและเผยแพร่ผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรมสร้างธุรกิจ SME เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ประจักษ์ โดยกรมฯ ได้ช่วยประชาสัมพันธ์ภาคธุรกิจที่ได้รับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจให้เป็นที่ตระหนักรู้จากสาธารณชนอีกด้วย หนังสือรับรองฯ ที่ได้รับจะมีอายุ 3 ปี ธุรกิจสามารถนำเครื่องหมายรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจไปใช้ร่วมกับเครื่องหมายการค้า รวมถึงในหนังสือรับรองนิติบุคคลของธุรกิจยังระบุหมายเหตุข้อความรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจเพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้คู่ค้าอีกด้วย”
“สุดท้ายนี้ ขอแสดงความยินดีกับธุรกิจรายใหม่ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ จนได้รับโล่รางวัลและหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจเพิ่มในปีนี้ทั้ง 29 ราย รวมไปถึงธุรกิจอีก 4 ราย ที่ได้รับโล่รางวัลพิเศษด้าน BCG ทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ 1) โล่รางวัลด้านเศรษฐกิจชีวภาพ 2) โล่รางวัลด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน 3) โล่รางวัลด้านเศรษฐกิจสีเขียว และ 4) โล่รางวัลด้านเศรษฐกิจภาพรวม BCG ประจำปี 2566 ขอให้ธุรกิจของท่านเจริญก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ เป็นต้นแบบที่สง่างาม และเป็นพลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป” อธิบดีฯ กล่าวในตอนท้าย