กรมพัฒนาธุรกิจการค้าปรับปรุงประกาศกรม 2 ฉบับ ภายใต้ พ.ร.บ.การบัญชี เรื่องกำหนดรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงิน และกำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชีเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมเปิดให้ผู้มีส่วนได้เสียร่วมแสดงความคิดเห็น ก่อนนำไปปรับปรุงและบังคับใช้ต่อไป
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มีการปรับปรุงประกาศกรม จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ 1. เรื่อง กำหนดรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงิน ซึ่งประกาศฉบับเดิมใช้มาเป็นเวลา 12 ปีแล้ว จึงปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ของสภาวิชาชีพบัญชี (ในพระบรมราชูปถัมภ์) แห่งประเทศไทยและ 2. เรื่อง กำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี เพื่อมุ่งเน้นพัฒนาผู้ทำบัญชีให้มีคุณสมบัติเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
“ที่ผ่านมากรมได้ออกประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเรื่องต่างๆ เพื่อให้ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีและผู้ทำบัญชีปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งบางฉบับใช้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว หรือมีข้อกำหนดที่อาจไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน จึงได้ทำการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น และได้เปิดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและมีส่วนได้เสียกับร่างประกาศทั้ง 2 ฉบับ ได้แสดงความคิดเห็น ทั้งการจัดสัมมนา เพื่อชี้แจงและรับฟังความคิดเห็น และเปิดรับฟังความคิดเห็นทางออนไลน์ ผ่าน https://forms.gle/7f2NcgACENQZZcFw7 ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 8 ก.ย. 2566 และจากนั้นกรมจะนำผลการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ พร้อมรายละเอียดการแก้ไขประกาศดังกล่าวเผยแพร่ให้ทราบในโอกาสต่อไป” นายทศพลกล่าว
ปัจจุบันประเทศไทยมีนิติบุคคลกว่า 886,796 ราย ซึ่งทั้งหมดจะต้องจัดทำบัญชีให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ. 2543 โดยถือเป็นกฎหมายหลักที่กำหนดรายละเอียดในการจัดทำบัญชีของธุรกิจ และภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว ได้กำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของบุคคลที่เกี่ยวข้องในการจัดทำบัญชีของธุรกิจไว้ 2 ฝ่าย คือ 1. ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย และกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร และ 2. ผู้ทำบัญชี ซึ่งมีหน้าที่จัดทำบัญชีของธุรกิจ ปัจจุบันมีจำนวนรวม 70,243 คน และการแบ่งแยกหน้าที่และความรับผิดชอบของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้การจัดทำบัญชีของธุรกิจมีความถูกต้อง ครบถ้วน ส่งผลให้ข้อมูลในงบการเงินมีความน่าเชื่อถือ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ประกอบการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีให้มีความเป็นมืออาชีพและประกอบธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล โดยเฉพาะการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย จะช่วยยกระดับมาตรฐานการทำงานและคุณภาพของงบการเงินให้กับธุรกิจด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่กองกำกับบัญชีธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทรศัพท์ 0-2547-4407, 0-2547-4408, 0-2547-4395 อีเมล : buncheehearing@gmail.com หรือ Line Open Chat : DBD Accounting