ชาวไร่อ้อยเตรียมตบเท้าเข้าพบ "พิมพ์ภัทรา" รมว.อุตสาหกรรมคนใหม่เร็วๆ นี้เร่งสางปมมาตรการสนับสนุนตัดอ้อยสด 120 บาท/ตัน ราคาตลาดโลกพุ่งและภัยแล้งส่อซ้ำเติม "น้ำตาล" ตึงตัวแนะบริหารราคาให้สมดุลส่งสัญญาณปรับขึ้น 3 สมาคม รง.น้ำตาลแนะ ปชช.อย่าตื่น ลั่นมีเพียงพอ ขณะที่ ก.อุตฯ ยันปรับแผนอ้อยไฟไหม้ไม่หนุนแบบเดิม
นายวีระศักดิ์ ขวัญเมือง ผู้แทนชาวไร่อ้อยในคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวไร่อ้อยอยู่ระหว่างประสานงานที่จะขอเข้าพบกับ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเร็วๆ นี้ เพื่อแสดงความยินดีและหารือภาพรวมแนวทางการแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบเร่งด่วนโดยเฉพาะประเด็นหลัก การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) จากอ้อยไฟไหม้ด้วยการสนับสนุนวงเงินจากรัฐ 120 บาทต่อตันเพื่อส่งเสริมการตัดอ้อยสด และภาวะภัยแล้งที่อาจซ้ำเติมให้น้ำตาลทรายในประเทศขาดแคลนหากไม่มีการบริหารจัดการที่ดีพอ
ทั้งนี้ รัฐบาลที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดี “ลดฝุ่น PM 2.5” โดยสนับสนุนชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยส่งโรงงานในอัตรา 120 บาท/ตัน มาต่อเนื่องจนฤดูหีบปี 2565/66 ที่ปิดหีบไปเมื่อ 7 เม.ย. 66 รัฐกลับไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ตั้งแต่แรกเริ่มจนเปลี่ยนผ่านมาสู่รัฐบาลใหม่ และล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรมยังมีนโยบายปรับเปลี่ยนมาตรการในเชิงลงโทษมากกว่าสนับสนุน เช่น ชาวไร่ที่ส่งอ้อยไฟไหม้หรือมีสิ่งปนเปื้อนเข้าหีบจะถูกหักจากราคาอ้อยขั้นต้น 90 บาท/ตัน โรงงานที่รับอ้อยดังกล่าวถูกหัก 30 บาท/ตัน และจะสนับสนุนเฉพาะอ้อยสดที่ส่งหีบ 100% เท่านั้น ฯลฯ แม้จะหารือใน กอน.แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยุติ
นอกจากนี้ยังจะหารือถึงแนวโน้มราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกล่าสุดที่น้ำตาลทรายขาวตลาดลอนดอน No.5 เมื่อรวมค่าพรีเมียมสูงถึง 760 เหรียญ/ตัน หรือคิดเป็นราว 28 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เนื่องจากผลกระทบจากการงดส่งออกน้ำตาลของอินเดียที่จะเริ่มใน ต.ค. 66 ขณะที่ราคาน้ำตาลทรายของไทยหน้าโรงงานอยู่ที่ 19-20 บาท/กก. ส่วนขายปลีกเฉลี่ยอยู่ที่ 25-26 บาท/กก. อาจจูงใจให้มีการลักลอบนำน้ำตาลทรายส่งออกไปตามชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นเพราะเพื่อนบ้านมีราคาที่สูงกว่าไทย ซึ่งอาจทำให้น้ำตาลทรายในประเทศขาดแคลนแม้ว่ารัฐจะมีเครื่องมือในเรื่องของการกันสำรองไว้ (Buffer Stock) แล้วก็ตามเพราะฤดูการผลิตปี 2566/67 ยังเผชิญภัยแล้งที่ผลผลิตอ้อยของไทยจะลดต่ำไม่ถึง 70 ล้านตันที่จะมาซ้ำเติมอีกด้วย ดังนั้นรัฐจำเป็นต้องบริหารราคาน้ำตาลทรายในประเทศให้สมดุลกับราคาต่างประเทศ
นายรังสิต เฮียงราช ผู้อำนวยการ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย กล่าวว่า แม้ราคาน้ำตาลทรายดิบซื้อขายล่วงหน้าอยู่ที่ 22-23 เซ็นต์/ปอนด์ซึ่งถือเป็นราคาสูงจากส่วนหนึ่งเพราะอินเดียงดส่งออก แต่ไทยเจอภัยแล้งฤดูหีบปี 66/67 คาดว่าอ้อยจะเข้าหีบต่ำกว่า 80 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้น้ำตาลหายไปอย่างต่ำ 2 ล้านตัน จากปีก่อน 10 ล้านตันและราคาตลาดโลกที่สูงกว่าในไทยจึงต้องติดตามการส่งออกตามแนวชายแดน แต่ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลยืนยันจะบริหารไม่ให้น้ำตาลขาดแคลนขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกจนกักตุนน้ำตาล และขอให้รัฐบริหารราคาน้ำตาลให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงฯ กำลังทบทวนมาตรการแก้ไขการเผาไร่อ้อยเพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าเงินตัดอ้อยสด 120 บาท/ตันไม่ได้แก้ปัญหาได้ อ้อยไฟไหม้ยังคงสูงและกระทบต่อสิทธิของประชาชนกว่า 44 ล้านคน ในการเข้าถึงอากาศไร้ฝุ่นพิษ หรือ PM 2.5 จากการเผาอ้อยในช่วง 6 เดือนของทุกๆ ปีจึงจะสนับนุนแบบใหม่ให้กับชาวไร่ที่มิได้ลักลอบเผาไร่อ้อยของตนเองหรือไร่อ้อยของผู้อื่นตลอดช่วงฤดูการผลิตปี 2565/2566) ให้ได้รับการสนับสนุน ทั้งในรูปแบบที่ให้เป็นตัวเงิน (in cash) แก่ชาวไร่อ้อย และในรูปแบบที่ให้เป็นระบบการบริหารจัดการไร่อ้อยและการตัดอ้อยด้วยเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรม (in kind) ภายใต้วงเงินที่เหมาะสมและไม่เป็นภาระงบประมาณเกินความจำเป็น