ชาวไร่อ้อยแห่ให้กำลังใจ “เพื่อไทย” แก้ไขปัญหา ปชช. หวังรัฐบาลใหม่ยกระดับชีวิตเกษตรกร “ชลน่าน” คาดโผ รมต.จบเย็นนี้ แจงเหตุเสียเก้าอี้ รมว.เกษตรฯ บอกมีแค่ 141 เสียง จำเป็นต้องมีพรรคร่วมฯ ลั่นทุกพรรคต้องขับเคลื่อนนโยบายที่มี “เพื่อไทย” เป็นแกนหลัก ปัดตอบ “สุทิน” นั่ง รมว.กลาโหม
วันนี้ (28 ส.ค.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมกันรับหนังสือจากตัวแทนชุมนุมสหกรณ์การเกษตรชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ที่มาเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งดำเนินการจ่ายเงินอุดหนุนช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดเข้าโรงงานในอัตรา 120 บาทต่อตันอ้อย ตามนโยบายของภาครัฐที่รณรงค์ให้ตัดอ้อยสด ลดการเผาไร่อ้อยก่อนตัดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนการเก็บเกี่ยวผลผลิตและเป็นแรงจูงใจให้ชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดสะอาดเข้าสู่โรงงาน นอกจากนี้ ตัวแทนชาวไร่อ้อย ยังได้ให้กำลังพรรคเพื่อไทยในการทำงานแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน พร้อมขอให้รัฐบาลใหม่ช่วยยกระดับชีวิตเกษตรกรด้วย
ต่อมา นพ.ชลน่าน กล่าวถึงความคืบหน้าในการวางบุคคลที่เหมาะสมเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมรายชื่อจากพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี โดยอยู่ในระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติ ซึ่งเกือบ 100% แล้ว โดยคาดว่า จะมีการพิจารณาเสร็จสิ้นภายในเย็นนี้ (28 ส.ค.)
ส่วนกรณีที่มีกระแสว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในภาคอีสาน ไม่พอใจผู้ที่มาดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมาจากพรรคการเมืองอื่นนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สมาชิกพรรคเพื่อไทยมีทุกพื้นที่ เรารับปัญหามาจากพี่น้องประชาชน และฟังมาโดยตลอด ซึ่งพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาล มีความเข้าใจ โดยเฉพาะกระทรวงที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจปากท้อง แต่ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีพรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล ต้องมีการทำงานและการเจรจาต่อรองร่วมกันเพื่อมีเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งจะต้องใช้หลักในการพิจารณาร่วมกัน แน่นอนว่า บางกระทรวงที่เราคาดหวังอาจจะไม่เป็นไปตามความต้องการ
“เราขอกราบขอออภัยจริงๆ เราในฐานะไม่ใช่เสียงข้างมากเด็ดขาด เราจำเป็นต้องมีพรรคร่วมรัฐบาล เรามีเพียงแค่ 141 เสียงเท่านั้น จึงจำเป็นต้องหาเพิ่มอีกมากมาย กว่าจะเป็น 314 ได้ ทำให้มีข้อจำกัด เลยทำให้ความประสงค์ที่ประชาชนต้องการ ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้” นพ.ชลน่าน ระบุ
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะใช้นโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก และมีนโยบายพรรคร่วมมาเสริมเติมแต่งให้เข้มแข็งมากขึ้น ไม่ว่ารัฐมนตรีมาจากพรรคไหนก็ตาม ได้มีข้อผูกพันตรงนี้ไว้แล้ว ซึ่ง สส.ของแต่ละพรรค ก็มีหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายของพรรคเพื่อไทย ลงไปสู่ประชาชนด้วย ซึ่งจะสามารถชดเชยกันได้ ทั้งนี้ จะปรากฏในนโยบายของรัฐบาล ในเร็วๆ นี้ ดังนั้น อะไรที่ปรากฎเป็นนโยบายของรัฐบาลจะต้องขับเคลื่อนไม่ว่าจะเป็นกระทรวงใด พรรคใด
สำหรับกรณีตำแหน่ง รมว.กลาโหม ที่มีกระแสข่าวว่าจะเป็น นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่สิ้นสุด ยังไม่ได้คำตอบว่าจะเป็นพลเรือน หรือคนมียศ แต่ในการทำงานยุคใหม่ กลไกการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใด ก็สามารถบริหารราชการแผ่นดินในฐานะผู้บริหารกระทรวง โดยเฉพาะรัฐบาลเพื่อไทย ที่สร้างขึ้นมาเพื่อความสมานฉันท์และปรองดอง ลดความขัดแย้ง ฝ่ายอำนาจได้หันหน้าเข้าหากัน ก็เชื่อว่า พลเรือน ทหาร ตำรวจ ก็จะมาช่วยกันทำงานร่วมกันได้