สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือร้องเรียนพรรคภูมิใจไทย ช่วยเร่งรัฐบาลจ่ายเงินค่าตัดอ้อยตามที่รับปาก พร้อมให้กำลังใจ “ชาดา” รับหนังสือ พร้อมบอกไม่มีปัญหา รัฐบาลนี้ถูกส่งมาช่วยประชาชนอยู่แล้ว เข้าใจตัดอ้อยโดยไม่เผาค่าใช้จ่ายสูงมาก
วันนี้ (28 ส.ค.) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.กาญจนบุรี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการรับหนังสือจากสมาคมชาวไร่อ้อย ว่า วันนี้พี่น้องเกษตรกรมาแสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทย และ พรรคภูมิใจไทย ที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ในส่วนของพี่น้องชาวไร่อ้อย ที่มีปัญหาอยู่ คือ เรื่องเงินค่าตัดอ้อยที่รัฐบาลเคยรับปากไว้ ตนเชื่อว่างบประมาณน่าจะมีอยู่แล้ว เพียงแต่เป็นช่วงของรอยต่อในระบบงบประมาณ ซึ่งยังไม่ได้ตั้งในปีต่อไปยังไม่มีการดำเนินการ และเป็นช่วงที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ผู้รักษาการคงไม่อยากทำอะไรที่ดูคาบเส้น
นายชาดา ยังกล่าวอีกว่า ตนได้บอกกับพี่น้องชาวไร่อ้อยว่าไม่มีปัญหา รัฐบาลชุดนี้ตั้งมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอยู่แล้วในทุกๆ เรื่อง ตนยังเชื่ออีกว่า รัฐบาลชุดนี้จะเป็นรัฐบาลที่บริการพี่น้องประชาชนได้ครบทุกด้าน ในฐานะที่ตนเป็นคนเคยทำอ้อยมาก่อนเป็นนายกสมาคมชาวไร่อ้อย ก็คงทิ้งชาวไร่อ้อยไม่ได้ ซึ่งเป็นสิทธิของชาวไร่อ้อยที่จะได้รับ ตนมองว่า ไม่ได้เป็นการเรียกร้องใหม่หรือเรียกร้องเพิ่มแต่มันเป็นสิทธิที่จะต้องได้ตามระบบกระบวนการตามข้อกฎหมายที่ได้ดำเนินการไว้
เมื่อถามย้ำว่า ทางสมาคมชาวไร่อ้อยที่มาเรียกร้องในวันนี้ต้องการอะไรเป็นรูปประธรรมในการมาในวันนี้ นายชาดา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ลำบากตั้งแต่ PM 2.5 ที่ไม่ให้มีการเผาอ้อย ตนมองว่า การเผาเป็นเรื่องของการอำนวยความสะดวก ในการตัดอ้อย แต่การตัดด้วยการไม่เผาเป็นเรื่องที่ลำบากเป็นค่าใช้จ่ายที่เกษตรกรต้องลงทุนสูงในการดำเนินการ และเป็นประโยชน์ของทั้งประเทศในเรื่องของ PM 2.5 เป็นสิ่งที่รัฐบาลควรจะให้
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ดูเรื่องเกษตรกรและอุตสาหกรรม แต่ร่วมรัฐบาล ก็จะไปช่วยขับเคลื่อนผลักดันอย่างเต็มที่ใช่หรือไม่ นายชาดา ระบุว่า เราต้องทำงานในนามรัฐบาล ด้วยการนำจัดตั้งรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ทุกอย่างเรากระทำกันในนามพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะให้ทุกอย่างเดินไปอย่างดีเยี่ยม ซึ่งเป็นความหวังของพี่น้องชาวไทยเราอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่กระทรวงไหน ทุกคนสามารถมาดูแลซึ่งกันและกันได้เพื่อประโยชน์ของประชาชน และเป็นหน้าที่ของรัฐบาล