xs
xsm
sm
md
lg

ส่องกลยุทธ์รุก “โตชิบา” เปิดสวิตช์ รีวิวแผนทุกไตรมาส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด - ส่องเกมเชิงรุก “โตชิบา ไทยแลนด์” กับแผนตลาดลุยเครื่องใช้ไฟฟ้า อัดงบการตลาดเพิ่ม 12% ชู 3 กลยุทธ์หลัก เคลื่อนทัพเพิ่มแชร์ “ระดมออกสินค้าใหม่ 70 รุ่น-โหมช่องทางออนไลน์-การตลาดครบวงจร” พร้อมรีวิวแผนใหม่ทุกไตรมาสรับสถานการณ์ทุกจังหวะ

เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ โตชิบา จากญี่ปุ่น เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่อยู่คู่กับประเทศไทยมานานไม่ต่ำกว่า 50 ปีหรือประมาณครึ่งศตวรรษมาแล้ว กล่าวได้ว่า นอกจากผ่านสงครามการแข่งขันในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยมาอย่างโชกโชนแล้วนั้น ยังผ่านอุปสรรคต่างๆ นานามาอย่างมากมายที่เป็นทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการเมือง ปัญหาธรรมชาติ ปัญหาต่างๆ


นางกนิษฐ์ เมืองกระจ่าง ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ตลอด 50 กว่าปีที่ผ่านมาบริษัทได้ผ่านสถานการณ์ต่างๆ มาเยอะมาก อย่างน้ำท่วมหนักในปี 54 ก็ยังผ่านมาได้ จึงไม่กังวลเรื่องการเมือง และการรวมพรรคจัดตั้งรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้น เพียงขอให้จัดและจบให้เร็ว เพื่อให้ประเทศได้ก้าวต่อไป ซึ่งมองว่าสุดท้ายแล้วทุกฝ่ายต่างทำเพื่อประเทศชาติทั้งสิ้น

สิ่งที่ตอกย้ำได้อย่างดีล่าสุดก็คือ การลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ในส่วนของการผลิตแอร์แห่งใหม่ที่ชลบุรี มูลค่าการลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมานี้เอง โดยจะทำการผลิตแอร์ได้มากกว่า 4 ล้านเครื่องต่อปี โดยใช้เป็นฐานผลิตเพื่อการส่งออกที่สำคัญไปตลาดหลักคือ ตลาดเอเชีย และสหรัฐอเมริกาบางส่วน

“ทางบริษัทแม่เองก็ยังเชื่อมั่นศักยภาพประเทศไทย และพร้อมลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ในระยะยาวแม้ว่าขณะสถานการณ์ในปี 2566 จะดีขึ้นกว่าปีก่อน แต่บริษัทไม่เคยประมาท โดยจัดทำการรีวิวแผนในทุกไตรมาส เพื่อพร้อมรับสำหรับการเปลี่ยนแปลง มีบริษัทแม่ที่พร้อมสนับสนุนและเชื่อมั่นในบริษัทและในประเทศไทย”


สิ่งที่ตอกย้ำได้อย่างดีล่าสุดก็คือ การลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ในส่วนของการผลิตแอร์แห่งใหม่ที่ชลบุรี มูลค่าการลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมานี้เอง โดยจะทำการผลิตแอร์ได้มากกว่า 4 ล้านเครื่องต่อปี โดยใช้เป็นฐานผลิตเพื่อการส่งออกที่สำคัญไปตลาดหลักคือ ตลาดเอเชีย และสหรัฐอเมริกาบางส่วน

ทั้งนี้ บริษัทกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 55 ในปีหน้า อย่างมั่นคงและยั่งยืน และจะเดินหน้าสร้างการเติบโตต่อไป พร้อมกับ ‘นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต’ ให้แก่คนไทย โดยไม่เพียงแต่จะนำเสนอสินค้าและบริการที่ดี แต่สิ่งหนึ่งที่โตชิบายืนหยัดและไม่เคยเปลี่ยน คือการเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลที่ดี เป็นบริษัทสีเขียว รักษ์โลก บริษัทให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงการผลิต การส่งมอบสินค้า รวมไปถึงการทำการตลาดและการบริการ อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมตอบแทนสังคมสม่ำเสมอในรูปแบบที่หลากหลาย” นางกนิษฐ์กล่าว


นายอเล็กซ์ มา รองประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังนี้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น เห็นได้ชัดว่าหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอย และเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้อัตราการบริโภคสูงขึ้น รวมไปถึงภาคอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างที่เริ่มขยายตลาดอย่างจริงจัง ส่งผลให้อัตราการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น และท้ายสุดภาคการส่งออกก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งน่าจะทำให้ภาพรวมปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ หากมองถึงภาพรวมตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (ไม่รวมทีวี) ในช่วงครึ่งปีแรก 2566 นี้จะพบว่าเติบโตมากถึง 14% ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศ เติบโต 36% เนื่องจากในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาสภาพอากาศร้อนมากและร้อนยาวทำให้ความต้องการแอร์เพิ่มสูงขึ้น, เครื่องทำน้ำอุ่น เติบโต 15%, หม้อหุงข้าว เติบโต 6%

ในขณะที่ไมโครเวฟ ตลาดรวมตกลง 1% ตู้เย็น ตลาดรวมตกลง 3% และเครื่องซักผ้า ตลาดรวมติดลบ 3% เช่นกัน


“อย่างไรก็ตาม หากไม่นับเครื่องปรับอากาศ จะเห็นได้ว่าภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านครึ่งปีแรก มูลค่า 45,000 ล้านบาท ยังติดลบอยู่ประมาณ 1% แต่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ติดลบ 4-5% หรือราว 39,000 ล้านบาท ทำให้ทั้งปีก็จะติดลบ 1% เช่นกัน” นายอเล็กซ์ย้ำ

ขณะที่ผลประกอบการของโตชิบา ไทยแลนด์ ในครึ่งปีแรกเติบโตมากถึง 15% (ไม่นับรวมเครื่องปรับอากาศ) เมื่อครึ่งปีแรกดีเช่นนี้ ย่อมส่งผลดีต่อสถานการณ์ครึ่งปีหลังของโตชิบา ที่พร้อมด้วยแผนการตลาดครบเครื่อง และตลาดรวมเริ่มฟื้นขึ้นตามลำดับ โตชิบาจึงมั่นใจว่า ผลประกอบการโดยรวมตลอดทั้งปี 2566 นี้บริษัทจะมียอดขายรวมเติบโตได้มากถึง 15% อย่างแน่นอน ถือได้ว่าเติบโตมากกว่าปีที่แล้วถึง 3 เท่า จากเดิมปีที่แล้วที่เติบโตแค่ 5% เท่านั้นเอง


ผลประกอบการของโตชิบาไทยแลนด์ เมื่อมองย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2562 จะพบว่า เมื่อปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ใหม่ๆ นั้น ยังมียอดขายรวมที่ดีอยู่เติบโตได้ถึง 15% จากปีก่อนหน้า แต่เมื่อปี 2563 โตชิบายังแข็งแกร่งด้วยผลประกอบการที่ยังเติบโตเพิ่มเป็น 17%

มีเพียงปีที่แล้วคือปี 2564 เท่านั้นที่ผลประกอบการรวมตกลงมามาก เพราะมีการเติบโตเพียง 5% เท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตาม การเดินหน้าจากนี้ของโตชิบาย่อมมีความน่าสนใจถึงการวางเผนในเชิงรุก เพื่อสร้างผลประกอบการให้โตถึง 15% ในปีนี้ให้ได้


นางสาวธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ การออกสินค้าใหม่, ขยายช่องทางขายใหม่ๆ และแผนการตลาดในช่วงครึ่งปีหลังที่เหลือนี้ก็ยังคงทำตามแผนงานที่วางไว้อย่างเข้มข้น

เกมรุกที่ว่านี้สะท้อนออกมาให้เห็นได้ชัดเจน

1. การออกสินค้าใหม่ ซึ่งทั้งปีนี้โตชิบาวางไปป์ไลน์การออกสินค้าใหม่รวมทั้งหมดที่ 70 รุ่น ในทุกกลุ่มสินค้า ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว เรียกได้ว่าแทบจะปล่อยออกมาเดือนละ 5-6 รุ่น ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกออกสินค้าใหม่ไปแล้ว 31 รุ่น และครึ่งปีหลังยังระดมออกใหม่อีก 39 รุ่น

ตามแผนงานของครึ่งปีหลัง 39 รุ่นนั้น หรือรวมมากกว่า 208 โมเดล จะแบ่งเป็น ตู้เย็น 21 รุ่น, เครื่องซักผ้า 4 รุ่น, หมวดเครื่องครัว 6 รุ่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอีก 8 รุ่น

สินค้าไฮไลต์คือกลุ่มตู้เย็น ตัวพระเอกหลัก ซึ่งถือเป็นตัวที่สร้างรายได้หลักให้กับโตชิบามาอย่างต่อเนื่่อง เช่น ตู้เย็นมัลติดอร์ รุ่น GR-RF610WE-PMT(37) มี 4 ประตู ความจุ 18 คิว ดีไซน์สวยงามในราคาคุ้ม เจาะตลาดระดับกลางที่ต้องการตู้เย็นขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Dual Cooling ควบคุมการทำงานด้วยแอปพลิเคชัน Tsmartlife


ส่วนกลุ่มเครื่องซักผ้า จะเปิดตัวรุ่นฝาบน รุ่น AW-DUM 1500LT (MK) ความจุ 14 กิโลกรัมในราคาที่คุ้มค่า มาพร้อมเทคโนโลยี The Great Waves เอกสิทธิ์ของโตชิบา ช่วยประหยัดน้ำ ถนอมใยผ้า และทำให้ผ้าไม่พันกัน และมีเทคโนโลยี UItra Fine Bubble (UF B) ที่ช่วยผลิตอณูฟองระดับนาโนที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้น้ำยาซักผ้าแทรกซึมลึกเข้าไปจับสิ่งสกปรกจากใยผ้า

นอกจากนี้ยังมีเครื่องทำน้ำอุ่น รุ่น TWH-38EFNTH (W) ขนาด 3800 วัตต์ และ TWH-48EFNTH (W) ขนาด 4800 วัตต์ เป็นระบบดิจิทัล โดดเด่นด้วยหม้อต้มทองแดง แบบลดรอยต่อ ทนทาน และทำความร้อนได้รวดเร็ว มีเทคโนโลยี SensTemp ช่วยรักษาระดับอุณหภูมิของน้ำให้ร้อนสม่ำเสมอ

กลุ่มเตาอบไฟฟ้า จะวางตลาดรุ่น TL2-SAC25GZC (GR) ขนาดใหญ่ 25 ลิตรในราคาประหยัด อบ ย่าง ทอดไร้น้ำมัน ได้ในเครื่องเดียว

กลุ่มไมโครเวฟ จะวางตลาดรุ่น MM-EM25PE (BK) ความจุ 25 ลิตร ห้องอบใหญ่จุใจในขนาดคอมแพกต์ไซส์ เล็กกะทัดรัดเหมาะกับทุกห้องครัว และหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ รุ่น HC-14KSSTH ขนาด 4.5 ลิตร เป็นต้น


2. การขยายช่องทางการขายใหม่ๆ และมีแผนเพิ่มจำนวนไลน์อัพสินค้าเข้าร้านค้าอีก 10% โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าระดับกลางขึ้นบน หรือ Mid to High เช่น การขยายช่องทางอีคอมเมิร์ซด้วยการจัดแคมเปญใหญ่บนช่องทางอีคอมเมิร์ซ เช่นในช่วง 11.11 และ 12.12 ซึ่งเป็นมหกรรมเมกะแคมเปญที่สำคัญ

บริษัทตั้งเป้าเติบโตทางด้านช่องทางอีคอมเมิร์ซมากถึง 30% โดยทุ่มงบการตลาดทางด้านออนไลน์เพิ่ม 20% สำหรับกระตุ้นการขายและตอบแทนลูกค้าในช่วงเวลาดังกล่าว และเตรียมพร้อมสำหรับเพิ่มไลน์สินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะสินค้า Exclusive ที่มีขายเฉพาะในช่องทางออนไลน์เท่านั้น เพื่อไม่ให้แย่งตลาดกับช่องทางอื่น

ขณะที่ทั้งปีตั้งเป้าหมายสัดส่วยยอดขาย ทางออนไลน์อยู่ที่ 5% และทางออฟไลน์ 95%

3. การตลาด ปีนี้โตชิบาได้เพิ่มงบการตลาดรวมมากถึง 15% โดยช่วงครึ่งปีหลังจะทุ่มงบการตลาดมากขึ้น เพื่อทำการตลาดแบบครบวงจร มุ่งสร้างแบรนด์ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เกิดการรับรู้และความเชื่อมั่น ทั้งในลูกค้าที่เป็นฐานเดิมของโตชิบา รวมไปถึงฐานลูกค้าใหม่ที่ young gen ยิ่งขึ้น ให้ความสำคัญต่อการสร้างประสบการณ์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองได้สัมผัสสินค้าจริง มีการทำโรดโชว์ทั่วประเทศต่อเนื่องทุกเทศกาล ทั้ง ณ ร้านค้าจุดขาย รวมถึงตามสถานที่ชุมชนทั่วไป และสุดท้ายคือ การให้ความสำคัญต่อช่องทางขายที่บริษัทใส่ใจตั้งแต่การปรับปรุงหน้าร้านให้สวยงาม พร้อมบริการการทำแคมเปญส่งเสริมการขายให้คู่ค้า รวมไปถึงการพัฒนาทักษะต่อเนื่องให้พนักงานขาย เพื่อสามารถให้ข้อมูลและบริการลูกค้าได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ


“ปีนี้เราเติบโตได้ดี เพราะไมโครเวฟที่ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 บวกกับยอดขายตู้เย็นที่สร้างรายได้หลักกว่า 50% ให้โตชิบา ไทยแลนด์ และจากแผนการตลาดที่วางไว้ เชื่อว่าตลอดทั้งปีนี้กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจะมียอดขายเติบโต 15% หรือคาดการณ์ว่าถึงสิ้นปีนี้ทุกกลุ่มจะมีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น” นางสาวธัญปภัสส์กล่าว

โดยเป้าหมายแต่ละกลุ่มมีดังนี้ คือ ตู้เย็นจะมีแชร์ 14.5% อยู่ในอันดับ 3 ของตลาด ซึ่งครึ่งปีแรกนี้มีแชร์อยู่ 13.9%, เครื่องซักผ้า จะมีแชร์ 8% อันดับ 3 ของตลาด จากครึ่งปีแรกมีแชร์ที่ 7.3%, ไมโครเวฟ จะมีแชร์สิ้นปีเป็น 27% อันดับ 1 ของตลาด จากครึ่งปีแรกมีแชร์ที่ 25.9%, หม้อหุงข้าว จะมีแชร์เป็น 9% อันดับ 2 ของตลาด จากครึ่งปีแรกมีแชร์ที่ 8.7% และเครื่องทำน้ำอุ่น คาดว่าสิ้่นปีนี้จะมีแชร์ 7.5% อันดับ 6 ของตลาด จากครึ่งปีแรกที่มีแชร์ 6.5%

ทุกกลุ่มล้วนแล้วแต่จะมีแชร์เพิ่มจากสิ้นปีที่แล้วด้วยเช่นกัน โดยเมื่อสิ้นปีที่แล้ว 2565 กลุ่มตู้เย็นมีแชร์ที่ 12.4% อยู่ในอันดับที่ 3 ของตลาด, เครื่องซักผ้า มีแชร์ที่่ 6.8% อันดับที่ 5 ของตลาด, ไมโครเวฟ มีแชร์ที่ 20.4% อยู่ในอันดับที่ 2 ของตลาด, หม้อหุงข้าว มีแชร์ที่ 8% อยู่อันดับที่ 2 ของตลาด และเครื่องทำน้ำอุ่นมีแชร์ 6.5% อยู่อันดับที่ 6 ของตลาด

จึงนับเป็นความท้าทายอีกครั้งในปีนี้ของโตชิบา ไทยแลนด์ ที่วางแผนเชิงรุก เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ อย่างน่าจับตามอง








กำลังโหลดความคิดเห็น