xs
xsm
sm
md
lg

เครื่องใช้ไฟฟ้า HA ปีนี้ติดลบ 1% “โตชิบา” ปักธงกลับมาโต 15%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360- ฟันธงตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (ไม่รวมแอร์) สถานการณ์ดีขึ้น แต่ยังติดลบอยู่ 1% เชื่อกำลังซื้อฟิ้นตัว ครึ่งปีหลังสดใสไม่แพ้ครึ่งปีแรก “โตชิบา” จัดหนัก เพิ่มงบตลาด 12% เน้นอีคอมเมิร์ซ พร้อมส่งสินค้าใหม่อีก 39 รุ่นลุย มั่นใจทั้งปี 66 กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (ไม่รวมแอร์) จะเติบโต 15% ไม่หนักใจการเมือง ขอจัดตั้งรัฐบาลให้จบเร็ว ประเทศจะไก้ก้วเดินต่อไป

นายอเล็กซ์ มา รองประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น เห็นได้ชัดว่าหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอย และเดินทางท่องเที่ยวเยอะขึ้น ทำให้อัตราการบริโภคสูงขึ้น รวมไปถึงภาคอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างที่เริ่มขยายตลาดอย่างจริงจัง ส่งผลให้อัตราการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น และท้ายสุดภาคการส่งออกก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งน่าจะทำให้ภาพรวมปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าดียิ่งขึ้น
 
สอดคล้องกับภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (ไม่รวมทีวี) ในช่วงครึ่งปีแรก พบว่าเติบโต 14% ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศ เติบโต 36% เนื่องจากในช่วงหน้าร้อนมีอากาศร้อนมากและร้อนยาว เครื่องทำน้ำอุ่น เติบโต 15% หม้อหุงข้าว เติบโต 6% ในขณะที่ไมโครเวฟ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้าติดลบ
 


“อย่างไรก็ตามหากไม่นับเครื่องปรับอากาศ จะเห็นได้ว่าภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านครึ่งปีแรก มูลค่า 45,000 ล้านบาท ยังติดลบอยู่ประมาณ 1% แต่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับข่วงเดียวกันของปีก่อนที่ติดลบ 4-5% หรือราว 39,000 ล้านบาท ทำให้ทั้งปีก็จะติดลบ 1% เช่นกัน ขณะที่ผลประกอบการของโตชิบา ไทยแลนด์ ในครึ่งปีแรกโต 15% (ไม่นับรวมเครื่องปรับอากาศ) บวกกับแผนการตลาดที่วางไว้ในครึ่งปีหลัง เชื่อว่าจะทำให้ทั้งปี 2566 นี้ บริษัทจะเติบโต 15% จากปีก่อนโตเพียง 5%”

นางสาวธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ การออกสินค้าใหม่, ขยายช่องทางขายใหม่ๆ และแผนการตลาด ภายใต้งบการตลาดทั้งปีที่ใช้มากขึ้น 12% และออกสินค้าใหม่รวม 70 รุ่น แบ่งเป็นครึ่งปีแรก 31 รุ่น และครึ่งปีหลัง 39 รุ่น ภายใต้แผนการตลาดกับ 3 กลยุทธ์หลัก คือ การออกสินค้าใหม่, ขยายช่องทางขายใหม่ๆ และแผนการตลาด

โดยในส่วนของ 1.การออกสินค้าใหม่นั้น ครึ่งปีหลังมีแผนเพิ่มอีก 39 รุ่น แบ่งเป็น ตู้เย็น 21 รุ่น เครื่องซักผ้า 4 รุ่น หมวดเครื่องครัว 6 รุ่น และเครื่องใช้ในบ้านอีก 8 รุ่น ขณะที่สินค้าไฮไลท์ เช่น ตู้เย็นมัลติดอร์ รุ่น GR-RF610WE-PMT(37) มี 4 ประตู ความจุ 18 คิว ดีไซน์สวยงามในราคาสุดคุ้ม เจาะตลาดระดับกลางที่ต้องการตู้เย็นขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Dual Cooling ควบคุมการทำงานด้วยแอปพลิเคชัน TSmartlife, เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น AW-DUM 1500LT (MK) ความจุ 14 กิโลกรัมในราคาสุดคุ้ม มาพร้อมเทคโนโลยี The Great Waves เอกสิทธิ์ของโตชิบา ช่วยประหยัดน้ำ ถนอมใยผ้า และทำให้ผ้าไม่พันกัน และมีเทคโนโลยี UItra Fine Bubble (UF B) ที่ช่วยผลิตอณูฟองระดับนาโนที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้น้ำยาซักผ้าแทรกซึมลึกเข้าไปจับสิ่งสกปรกจากใยผ้า


นอกจากนี้ยังมีเครื่องทำน้ำอุ่น รุ่น TWH-38EFNTH (W) ขนาด 3800 วัตต์ และ TWH-48EFNTH (W) ขนาด 4800 วัตต์ เป็นระบบดิจิทัล โดดเด่นด้วยหม้อต้มทองแดง แบบลดรอยต่อ ทนทาน และทำความร้อนได้รวดเร็ว มีเทคโนโลยี SensTemp ช่วยรักษาระดับอุณหภูมิของน้ำให้ร้อนสม่ำเสมอ, เตาอบไฟฟ้า รุ่น TL2-SAC25GZC (GR) ขนาดใหญ่ 25 ลิตรในราคาประหยัด อบ ย่าง ทอดไร้น้ำมัน ได้ในเครื่องเดียว, ไมโครเวฟ รุ่น MM-EM25PE (BK) ความจุ 25 ลิตร ห้องอบใหญ่จุใจในขนาดคอมแพคไซส์ เล็กกะทัดรัดเหมาะกับทุกห้องครัว และหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ รุ่น HC-14KSSTH ขนาด 4.5 ลิตร เป็นต้น

2. ขยายช่องทางการขายใหม่ๆ และมีแผนเพิ่มจำนวนไลน์อัพสินค้าเข้าร้านค้าอีก 10% โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า Mid to High อาทิ เช่น แคมเปญใหญ่บนช่องทางอีคอมเมิร์ซในช่วง 11.11 และ 12.12 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 30% โดยทุ่มงบเพิ่ม 20% สำหรับกระตุ้นการขายและตอบแทนลูกค้าในช่วงเวลาดังกล่าว และเตรียมพร้อมสำหรับเพิ่มไลน์สินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะสินค้า Exclusive ที่มีขายเฉพาะในช่องทางออนไลน์เท่านั้น เพื่อไม่ให้แย่งตลาดกับช่องทางอื่น ขณะที่ทั้งปีสัดส่วยยอดขายออนไลน์อยู่ที่ 5% และออฟไลน์ 95%

3. การตลาด ครึ่งปีหลังจะทุ่มงบการตลาดมากขึ้น เพื่อทำการตลาดแบบครบวงจร มุ่งสร้างแบรนด์ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เกิดการรับรู้และความเชื่อมั่น ทั้งในลูกค้าที่เป็นฐานเดิมของโตชิบา รวมไปถึงฐานลูกค้าใหม่ที่ young gen ยิ่งขึ้น ให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองได้สัมผัสสินค้าจริง มีการทำโรดโชว์ทั่วประเทศต่อเนื่องทุกเทศกาล ทั้ง ณ ร้านค้าจุดขาย รวมถึงตามสถานที่ชุมชนทั่วไป และสุดท้ายคือการให้ความสำคัญกับช่องทางขายที่บริษัทใส่ใจตั้งแต่การปรับปรุงหน้าร้านให้สวยงาม พร้อมบริการการทำแคมเปญส่งเสริมการขายให้คู่ค้า รวมไปถึงการพัฒนาทักษะต่อเนื่องให้กับพนักงานขาย เพื่อสามารถให้ข้อมูลและบริการลูกค้าได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

“ปีนี้เราเติบโตได้ดี เพราะไมโครเวฟที่ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 บวกกับยอดขายตู้เย็นที่สร้างรายได้หลักกว่า 50% ให้โตชิบา ไทยแลนด์ และจากแผนการตลาดที่วางไว้ เชื่อว่าตลอดทั้งปีนี้ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจะมียอดขายเติบโต 15% หรือ คาดการณ์ว่าถึงสิ้นปีนี้ ตู้เย็นจะมีแชร์ 14.5% อยู่ในอันดับ 3 ของตลาด, เครื่องซักผ้า มีแชร์ 8% อันดับ 3 ของตลาด, ไมโครเวฟ 27% อันดับ 1 ของตลาด, หม้อหุงข้าว 9% อันดับ 2 ของตลาด และเครื่องทำน้ำอุ่น 7.5% อันดับ 6 ของตลาด”

ด้านนางกนิษฐ์ เมืองกระจ่าง ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ตลอด 50 กว่าปีที่ผ่านมา บริษัทได้ผ่านสถานการณ์ต่างๆ มาเยอะมาก อย่างน้ำท่วมหนักในปี 54 ก็ยังผ่านมาได้ จึงไม่กังวลเรื่องการเมือง และการรวมพรรคจัดตั้งรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้น เพียงขอให้จัดและจบให้เร็ว เพื่อให้ประเทศได้ก้าวต่อไป ซึ่งมองว่าสุดท้ายแล้วทุกฝ่ายต่างทำเพื่อประเทศชาติทั้งสิ้น ที่สำคัญทางบริษัทแม่เองก็ยังเชื่อมั่นศักยภาพประเทศไทย และพร้อมลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง
อย่างล่าสุดกับโรงงานผลิตแอร์แห่งใหม่ที่ชลบุรี มูลค่าการลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาทนั้น ได้แล้วเสร็จเมื่อ 2 เดือนก่อนและพร้อมเดินกำลังการผลิตเต็มที่ที่ปีละ 4 ล้านเครื่อง เพื่อส่งออกในเอเชีย และสหรัฐอเมริกาบางส่วนไปเรียบร้อยแล้ว

“แม้สถานการณ์ในปี 2566 จะดีขึ้นกว่าปีก่อน แต่บริษัทไม่เคยประมาท โดยจัดทำการรีวิวแผนในทุกไตรมาส เพื่อพร้อมรับสำหรับการเปลี่ยนแปลง มีบริษัทแม่ที่พร้อมสนับสนุนและเชื่อมั่นในบริษัทและในประเทศไทย ทั้งนี้บริษัทกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 55 ในปีหน้า อย่างมั่นคงและยั่งยืน และจะเดินหน้าสร้างการเติบโตต่อไป พร้อมกับ ‘นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต’ ให้กับคนไทย โดยไม่เพียงแต่จะนำเสนอสินค้าและบริการที่ดี แต่สิ่งหนึ่งที่โตชิบายืนหยัดและไม่เคยเปลี่ยน คือการเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลที่ดี เป็นบริษัทสีเขียว รักษ์โลก บริษัทให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงการผลิต การส่งมอบสินค้า รวมไปถึงการทำการตลาดและการบริการ อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมตอบแทนสังคมสม่ำเสมอในรูปแบบที่หลากหลาย” นางกนิษฐ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น