ผู้จัดการรายวัน 360 - “เบอร์เกอร์คิง” เร่งเครื่อง ขยายตลาดใหม่ๆ ชูโรงเมนูใหม่ดึงลูกค้าใหม่ขยายฐาน ลั่นปีนี้สร้างนิวไฮด้านการเติบโตแล้วถึงสองครั้งจากเมนูใหม่
นายธนวรรธ ดำเนินทอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือไมเนอร์ผู้บริหารร้านเบอร์เกอร์คิง (BURGER KING) เปิดเผยว่า ตลาดจีนอาจจะยังไม่กลับมาเต็มสมบูรณ์แบบหลังจากที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาด แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์โดยรวมของโควิดจะเริ่มดีขึ้นแล้วก็ตาม แต่ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในจีนขณะนี้เริ่มชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของคนจีนด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาไทยแม้ว่าจะดูเหมือนมากแต่ก็ไม่มากเท่าเมื่อเทียบกับจำนวนในอดีต
อย่างไรก็ตาม มริษัทไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก เนื่องจากบริษัทมีการปรับตัวปรับกลยุทธ์ในการทำตลาดต่อเนื่องและไม่ได้พึ่งพานักท่องเที่ยวจากจีนเป็นหลัก แต่หันมาเน้นตลาดคนไทยมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และขณะเดียวกันก็มีตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติตลาดใหม่เข้ามาทดแทนได้ ที่มาแรงก็คือ ตลาดคาซัคสถาน ตะวันออกกลาง รวมทั้งกลุ่มตลาดยุโรป เอเชีย ก็มากขึ้น
“ในภาพรวมตอนนี้ถือได้ว่าประเทศไทยเราได้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตโควิดมาแล้ว ความมั่นใจของผู้บริโภคเริ่มกลับมา กำลังซื้อโดยรวมก็ดีขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการท่องเที่ยวไปในทิศทางที่ดีเติบโตสูงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเมื่อเทียบกับปี 2019 ก่อนโควิด โดยครึ่งแรกนี้เราเติบโตมากถึง 20% โดยเบอร์เกอร์คิงเป็นอันดับ 2 ในตลาดเบอร์เกอร์ แต่เป็นอันดับ 3 ในตลาดคิวเอสอาร์” นายธนวรรธกล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทก็ดำเนินกลยุทธ์การตลาดหลักๆ ทั้งการขยายสาขาใหม่ การออกสินค้าใหม่ การขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการออกแคมเปญใหม่หรือออกสินค้าใหม่ หรือ NPD (New Product Development)
“การออกสินค้าใหม่นี้ถือได้ว่าเป็นการขยายตลาดใหม่ๆ ทั้งที่ไม่เคยเข้าร้านเบอร์เกอร์ ไม่เคยรับประทานเบอร์เกอร์คิง รวมไปถึงลูกค้าที่บางครั้งมาเป็นกลุ่มแต่อยากรับประทานไม่เหมือนกัน ก็ทำให้กลุ่มนั้นไม่ได้เข้าร้านเรา ถ้าเรามีเมนูใหม่ๆ หรืออาหารใหม่ๆ นอกจากเบอร์เกอร์ก็มีโอกาสที่เราจะได้ลูกค้าใหม่ๆ เช่น เราขยายกลุ่มไก่ทอด ก็ทำให้ได้กลุ่มใหม่มากขึ้น เห็นได้ชัดว่าครึ่งปีแรกนี้เราประสบความสำเร็จอย่างมากกับเมนูใหม่หรือแคมเปญใหม่ที่ทำให้เกิดนิวไฮยอดขายเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึงสองครั้ง ในเดือนเมษายนและเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จากกระแสของ The Real Meat Burger และล่าสุดเราก็ออกเมนูไก่ทอดหาดใหญ่”
นายธนวรรธกล่าวว่า ไก่ทอดถือเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของคนไทย ภาพรวมตลาดไก่ทอดก็เติบโตต่อเนื่องทุกปี เนื่องจากเป็นเซกเมนต์ที่มีขนาดใหญ่สำหรับธุรกิจอาหารบริการด่วน (Quick-Service Restaurant) หรือ QSR มูลค่าตลาดกว่า 25,000 ล้านบาท ซึ่งตลอดระยะเวลาผ่านมา เบอร์เกอร์คิงได้รังสรรค์หลากหลายเมนูไก่ทอดซีรีส์ “ชิกเกนคิง” (Chicken King) เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด จึงเดินหน้าเสริมทัพความแข็งแกร่งให้เมนูไก่ทอดซีรีส์ชิกเกนคิงต่อเนื่องด้วยการเปิดตัว “ไก่ทอดหาดใหญ่ ชิกเกนคิง” (HATYAI CHICKEN KING) เริ่มต้นชิ้นละ 49 บาท หรือ “ชุดไก่ทอดหาดใหญ่ ชิกเกนคิง” ไก่ทอดหาดใหญ่ 2 ชิ้น ข้าวเหนียวหอมมะลิออร์แกนิก น้ำจิ้มแจ่ว เครื่องดื่มขนาด 16 ออนซ์ ชุดละ 129 บาท โดยเชื่อมั่นว่าเมนูไก่ทอดหาดใหญ่ ชิกเกนคิงจะได้รับเสียงตอบรับที่ดี สามารถกระตุ้นยอดขาย และขยายฐานผู้บริโภคของเบอร์เกอร์คิงในวงกว้างได้มากขึ้น
ส่วนการขยายสาขาใหม่ ปีนี้วางเป้าเปิดใหม่ 10 สาขา เปิดไปแล้ว 4 สาขา เช่น ในปั๊ มเชลล์บางนา สมุย หาดใหญ่ เป็นต้น ปัจจุบันมี 123 สาขาครอบคลุม 20 จังหวัด เปิดสาขาใหม่เฉลี่ยปีละ 10 สาขา โดยสัดส่วนรายได้มาจากดีลิเวอรี 30% (เมื่อ 5 ปีที่แล้วสัดส่วนเพียง 3% เท่านั้น), เทกอะเวย์ 30%, นั่งรับประทานในร้าน 30% และไดรฟ์ทรู 10% ในปีหน้าคาดว่าจะเน้นเปิดสาขาใหม่ในต่างจังหวัดมากขึ้น
