ผู้จัดการรายวัน 360 - เปิดคอมเมนต์ภาคธุรกิจเอกชน กรณีการเลือกนายกรัฐมนตรีการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า กังวลห่วงปัญหาโควิดกับปัญหาตลาดท่องเที่ยวโดนกระทบมากกว่า
นางสาวจันทรา พงศ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดสตาร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้พร้อมดื่มแบรนด์ ดีโด้ กล่าวให้ความเห็นว่า โดยส่วนตัวแล้วมองว่าเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล การเลือกนายกรัฐมนตรีอาจมีผลกระทบต่อธุรกิจในส่วนของบริษัทเองค่อนข้างน้อย และแม้จะมีการชุมนุมเกิดขึ้น ก็คิดว่าคงจะไม่รุนแรงถึงขั้นเกิดการนองเลือด
อย่างไรก็ตาม แต่อาจจะไปกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากกว่า โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในเรื่องของประเด็นการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรียังไม่เสร็จสิ้นสักทีก็อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวได้ เพราะคนไทยรวมทั้งคนต่างชาติจะขาดความเชื่อมั่น และไม่จับจ่าย แต่หากสถานการณ์การเมืองของไทยมีเสถียรภาพและนิ่งและชัดเจนแล้วก็จะส่งผลดีต่อการลงทุน และเศรษฐกิจก็จะเดินหน้าตามไปด้วย
นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี กล่าวว่า การเมืองไม่ค่อยเป็นปัญหาในการลงทุนทำธุรกิจเท่าไร บริษัทให้ความสำคัญและสนใจเรื่องโควิดกับเรื่องการท่องเที่ยวที่จะมีผลต่อการทำธุรกิจมากกว่า เพราะการเมืองนั้นแม้ว่าจะมีปัญหาแต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอาหารเท่าใด ถ้าจะมีการชุมนุมเกิดขึ้นก็คงไม่กระทบต่อธุรกิจอาหาร แต่อาจจะกระทบในแง่ของรายได้กับสาขาที่อยู่ในย่านชุมนุม
นางสาวพิมพิดา วรัญญูรัตนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สยามเลเซอร์ คลินิก กล่าวว่า หากกระบวนการเลือกตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ยังล่าช้าไม่เสร็จสิ้นก็อาจจะทำให้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและอารมณ์การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนได้ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีลูกค้ากลุ่มต่างชาติจำนวนหนึ่ง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านั้นต่างก็มีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นหากได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยไม่ได้มองที่ตัวบุคคลว่าจะเป็นใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพียงแต่อาจจะไม่ใช่กลุ่มเดิม แต่เป็นขั้วใหม่ที่ได้จัดตั้งรัฐบาล
นายสมบัติ หงส์ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เรสทัวรองท์ จำกัด ผู้บริหารร้านซานตาเฟ่ กล่าวให้ความเห็นว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือพรรคใดจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อปัญหาค่าแรงงานแน่นอน ซึ่งผู้ประกอบการคงจะต้องมีการปรับราคาสินค้าขึ้น เพราะต้นทุนค่าแรงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามก็คงต้องติดตามดูสถานการณ์ก่อน
นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า ในมุมมองของภาคเอกชนก็มีความพร้อมที่จะทำงานกับรัฐบาลได้ทุกชุดทุกรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ที่มีการเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลอยูู่ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ใครเป็นนายกรัฐมนตรี หรือพรรคใดที่เข้ามาบริหารประเทศก็ไม่มีผลกระทบต่อแผนการขยายธุรกิจอยู่แล้ว แต่จะมีผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวมมากกว่า
นางสาวจันทรา พงศ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดสตาร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้พร้อมดื่มแบรนด์ ดีโด้ กล่าวให้ความเห็นว่า โดยส่วนตัวแล้วมองว่าเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล การเลือกนายกรัฐมนตรีอาจมีผลกระทบต่อธุรกิจในส่วนของบริษัทเองค่อนข้างน้อย และแม้จะมีการชุมนุมเกิดขึ้น ก็คิดว่าคงจะไม่รุนแรงถึงขั้นเกิดการนองเลือด
อย่างไรก็ตาม แต่อาจจะไปกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากกว่า โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในเรื่องของประเด็นการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรียังไม่เสร็จสิ้นสักทีก็อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวได้ เพราะคนไทยรวมทั้งคนต่างชาติจะขาดความเชื่อมั่น และไม่จับจ่าย แต่หากสถานการณ์การเมืองของไทยมีเสถียรภาพและนิ่งและชัดเจนแล้วก็จะส่งผลดีต่อการลงทุน และเศรษฐกิจก็จะเดินหน้าตามไปด้วย
นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี กล่าวว่า การเมืองไม่ค่อยเป็นปัญหาในการลงทุนทำธุรกิจเท่าไร บริษัทให้ความสำคัญและสนใจเรื่องโควิดกับเรื่องการท่องเที่ยวที่จะมีผลต่อการทำธุรกิจมากกว่า เพราะการเมืองนั้นแม้ว่าจะมีปัญหาแต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอาหารเท่าใด ถ้าจะมีการชุมนุมเกิดขึ้นก็คงไม่กระทบต่อธุรกิจอาหาร แต่อาจจะกระทบในแง่ของรายได้กับสาขาที่อยู่ในย่านชุมนุม
นางสาวพิมพิดา วรัญญูรัตนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สยามเลเซอร์ คลินิก กล่าวว่า หากกระบวนการเลือกตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ยังล่าช้าไม่เสร็จสิ้นก็อาจจะทำให้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและอารมณ์การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนได้ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีลูกค้ากลุ่มต่างชาติจำนวนหนึ่ง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านั้นต่างก็มีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นหากได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยไม่ได้มองที่ตัวบุคคลว่าจะเป็นใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพียงแต่อาจจะไม่ใช่กลุ่มเดิม แต่เป็นขั้วใหม่ที่ได้จัดตั้งรัฐบาล
นายสมบัติ หงส์ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เรสทัวรองท์ จำกัด ผู้บริหารร้านซานตาเฟ่ กล่าวให้ความเห็นว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือพรรคใดจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อปัญหาค่าแรงงานแน่นอน ซึ่งผู้ประกอบการคงจะต้องมีการปรับราคาสินค้าขึ้น เพราะต้นทุนค่าแรงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามก็คงต้องติดตามดูสถานการณ์ก่อน
นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า ในมุมมองของภาคเอกชนก็มีความพร้อมที่จะทำงานกับรัฐบาลได้ทุกชุดทุกรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ที่มีการเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลอยูู่ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ใครเป็นนายกรัฐมนตรี หรือพรรคใดที่เข้ามาบริหารประเทศก็ไม่มีผลกระทบต่อแผนการขยายธุรกิจอยู่แล้ว แต่จะมีผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวมมากกว่า