xs
xsm
sm
md
lg

“แอลจี” โหม “ทีวีไลฟ์สไตล์” ยึดตลาดพรีเมียมเป้า 4.9 พันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - แอลจีฉลอง 10 ปี OLED เปิดตัว LG OLED evo ขนาด 97 นิ้ว จอใหญ่สุดในตลาดเวลานี้ ราคาเฉียดล้าน เพราะมีทอน 10 บาท เปิดเกมบุกปี 66 ก้าวสู่เซกเมนต์ทีวีไลฟ์สไตล์ ดันยอดขายทีวีรวมโต 8% สู่รายได้ 4,930 ล้านบาท พร้อมรั้งเบอร์ 1 ทีวีพรีเมียมเป็นปีที่ 11 ด้วยส่วนแบ่ง 75% หรือดันแชร์รวมทีวีเป็น 21%


นายซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาแอลจีได้นำเสนอนวัตกรรมทีวี OLED ระดับโลกสู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยมีหัวใจสำคัญคือการพัฒนาด้านนวัตกรรม สอดคล้องกับแนวคิด “Innovation for a Better Life” แอลจีจะเดินหน้านำเสนอนวัตกรรมทีวีที่ก้าวล้ำ เพื่อก้าวต่อไปอย่างแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้าน OLED


นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า แอลจีเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดทีวีพรีเมียมของประเทศไทยมาตลอด 10 ปีล่าสุดเพื่อฉลอง 10 ปี แห่งผู้นำนวัตกรรม OLED TV จึงพร้อมเปิดตลาดใหม่ ในกลุ่มทีวีไลฟ์สไตล์เป็นครั้งแรก เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งปีนี้นำเสนอ LG OLED evo 4K ซีรีส์ G2 ขนาด 97 นิ้ว ใหญ่ที่สุดในตลาดเวลานี้ ราคา 999,990 บาท

ในปีนี้แอลจีพร้อมก้าวเข้าสู่ตลาดไลฟ์สไตล์ทีวีอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญต่อเรื่องการออกแบบและความลงตัวกับการตกแต่งบ้าน จึงได้เปิดตัวทีวี 2 รุ่น คือ LG OLED Posé ขนาด 55 นิ้ว หน้าจอ OLED evo และยังได้เปิดตัว LG StanbyME จอสัมผัสเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระด้วยล้อลากและแบตเตอรี่ในตัว และจอภาพที่ออกแบบมาให้ปรับหมุนได้ จึงตอบโจทย์เทรนด์การรับชมสตรีมมิ่งคอนเทนต์จากแอปพลิเคชันต่างๆ


โดยไลน์อัพทีวีใหม่จากแอลจีในปีนี้ ประกอบด้วย 1. LG OLED มีทั้งหมด 4 ซีรีส์ 12 รุ่น ได้แก่ LG SIGNATURE OLED 8K Z3, LG OLED evo ซีรีส์ G3, C3 และ LG OLED 83 ขนาดตั้งแต่ 48 นิ้ว ถึง 97 นิ้ว 2. LG QNED มีทั้งหมด 3 ซีรีส์ 10 รุ่น ได้แก่ ซีรีส์ QNED86, QNED8O และ QNED75 ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 55" ไปจนถึง 86"

ส่วนกลยุทธ์ทางการตลาดในปีนี้ใช้งบ 300 ล้านบาท เน้น 4 ส่วนหลัก คือ 1. สร้างแบรนด์ LG TV ให้เข้มแข็งและเป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านการใช้สื่อ ATL 2. เน้นสื่อ Digital ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย จัดทำวิดีโอรีวิวสินค้าเชิงไลฟ์สไตล์มากขึ้น 3. ให้ความสำคัญต่อ Customer Experience (CX) ด้วยการพัฒนาช่องทางให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลสินค้าได้สะดวกมากขึ้น 4. สร้าง Experience Zone ที่หน้าร้านค้า พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญแนะนำสินค้าให้ลูกค้าได้ทดลองใช้งานจริง

นายอำนาจกล่าวต่อว่า เป้าหมายในปีนี้ มองไว้ใน 3 ส่วน คือ 1. Display สินค้าระดับพรีเมียม และ Lifestye TV เพิ่มมากขึ้นและครอบคลุมทั่วประเทศ 2. ตั้งเป้ายอดขาย OLED TV ในปีนี้จำนวน 16,000 เครื่อง หรือมีส่วนแบ่งของตลาดที่ 75% ครองอันดับที่ 1 ในประเทศไทย 11 ปี ติดต่อกัน 3. ส่วนแบ่งของตลาดทีวีภาพรวมทั้งหมด 21% และยอดขายโตขึ้น 8%


อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าตลาดรวมทีวีปีนี้จะมีความต้องการที่ 2.2 ล้านเครื่อง คิดเป็นมูลค่า 23,600 ล้านบาท โตจากปีก่อน 2% ส่วนปีนี้แอลจีตั้งเป้ายอดขายทีวีรวมไว้ที่ 4,930 ล้านบาท คิดเป็น 38% หรือทำรายได้เป็นอันดับ 2 ให้แก่แอลจี รองจากกลุ่ม HA (ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า) ที่ทำรายได้ 49% และอันดับสาม คือ เครื่องปรับอากาศ หรือรายได้รวมแอลจีปีนี้จะต้องโตอีก 10% จากปีก่อนปิดที่ 12,000 ล้านบาท

“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แอลจีเป็นผู้นำในตลาดทีวีพรีเมียม หรือส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 75% ในปีที่ผ่านมา แต่เราไม่หยุดที่จะพัฒนาต่อไปเพื่อมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าให้แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้บริโภคยุคใหม่ที่ไม่เพียงมองหาทีวีที่มาพร้อมเทคโนโลยีด้านภาพเท่านั้น แต่ยังต้องตอบโจทย์ในด้านไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ ในปีนี้นำเสนอไลน์อัพทีวีหลากหลายรุ่น เช่น นวัตกรรมทีวี OLED 4K จอยักษ์ระดับไฮเอนด์สู่ตลาดทีวีระดับพรีเมียม พร้อมกับประเดิมตลาดทีวีไลฟ์สไตล์เป็นครั้งแรก เชื่อมั่นว่าจะสร้างการเติบโตด้านยอดขายในกลุ่มทีวี OLED ขึ้นอีก 60% และสร้างฐานยอดขายในกลุ่มไลฟ์สไตล์ทีวี รวมถึงจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของแอลจีในตลาดทีวีโดยรวมถึง 21% ภายในปี 2566” นายอำนาจกล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น