บุรีรัมย์ - พินาศ! รถโม่ปูนบรรทุกปูนผสมเสร็จ 30 ตันจะไปเททำถนนเสียหลักพุ่งชนบ้านพังยับ 2 หลัง ยายวัย 70 ลูกสาว หลาน และเหลน 3 ขวบบาดเจ็บรวม 4 คนถูกหามส่ง รพ. อีกทั้งยายอุ้มหลานหนีทัน คาดหลับในหรือขับเร็ว จี้รับผิดชอบเพราะบ้านพังทั้งหลัง คนขับอ้างเบรกไม่อยู่และพวงมาลัยบังคับไม่ได้
วันนี้ (19 ก.ค.) พ.ต.ท.สุรชัย เกวียนโคกกรวด สารวัตร (สอบสวน) สภ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุรถโม่ปูนพุ่งชนบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2 หลัง และมีผู้บาดเจ็บหลายราย จึงได้ประสานหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน รพ.ห้วยราช หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลโคกเหล็ก และหน่วยกู้ภัยฯ ร่วมตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วน
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถโม่ปูน ทะเบียน 82-7259 บุรีรัมย์ ซึ่งบรรทุกปูนผสมเสร็จประมาณ 30 ตัน อยู่ในสภาพพุ่งชนเสียบคาอยู่กลางตัวบ้านเลขที่ 8 หมู่ 5 ตำบลโคกเหล็ก อ.ห้วยราช จนบ้านพังทั้งหลัง ทั้งรถจักรยาน เครื่องใช้ไฟฟ้า และข้าวของในบ้านพังเสียหายเกือบทั้งหมด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย คือ นางสังวาลย์ เมืองจันทร์ อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านศีรษะแตก, นางจันทะนา อินเผือก อายุ 44 ปี ลูกสาวศีรษะแตก, น.ส.พนิดา อยู่พลี อายุ 25 ปี หลานสาวเจ็บที่สะโพก และขา ติดอยู่ใต้ท้องรถโม่ปูนต้องคลานออกมา และ ด.ญ.พีรดา อยู่พลี อายุ 3 ขวบเศษซึ่งเป็นเหลนก็ศีรษะแตก ซึ่งทั้ง 4 คนถูกนำตัวส่ง รพ.ห้วยราช เพื่อให้แพทย์รักษาอาการบาดเจ็บ
และบ้านอีกหลังที่ถูกรถโม่ปูนชนเสียหายคือ บ้านของนางถนอม ไขรัมย์ อายุ 54 ปี สภาพบ้านถูกชนด้านหน้าเสียหายไปครึ่งหลัง รถ จยย. เครื่องใช้ไฟฟ้า และข้าวของในบ้านก็พังเสียหายด้วย แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพราะอุ้มหลานสาววัย 3 ขวบ 7 เดือนหลบทัน แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ทำให้ถึงกับช็อกร้องไห้ทำอะไรไม่ถูก ญาติพี่น้องเพื่อนบ้านต่างมาให้กำลังใจและผูกแขนรับขวัญ
สอบถามนางจันทะนา อายุ 44 ปี ลูกสาวบ้านที่ถูกชนพังทั้งหลัง เล่านาทีเฉียดตายให้ฟังว่า ทั้งแม่ ตนเอง ลูกสาว และหลานสาวอยู่ในบ้านกันตามปกติ จู่ๆ รถโม่ปูนพุ่งเข้ามาชนอย่างแรงโดยไม่มีใครตั้งตัว จนทำให้ทั้งแม่วัย 70 ตนเอง ลูกสาว และหลานที่อยู่ในบ้านทั้งถูกแรงรถเฉี่ยวชน ผนังบ้านแตกหักทับ โดยเฉพาะลูกสาวของตนติดอยู่ใต้ท้องรถต้องตะเกียกตะกายคลานออกมาในสภาพเลือดอาบ ซึ่งจังหวะนั้นหากตนไปหยิบกระเป๋าอาจจะถูกรถชนเต็มๆ จนเสียชีวิตได้ เคราะห์ดีที่เดินมาตรงเครื่องซักผ้าจึงแค่บาดเจ็บ แต่ก็สร้างความตกใจและช็อกมาก และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่รถชนบ้าน ครั้งแรกเป็นรถกระบะแต่ตอนนั้นมีศาลพระภูมิกันไว้จึงไม่พุ่งเข้าตัวบ้าน แต่ครั้งนี้หนักมากบ้านพังทั้งหลัง บาดเจ็บถึง 4 คน ก็อยากให้คนขับหรือเจ้าของรถรับผิดชอบ
ด้านนายกิตติเดช บวรรัมย์ อายุ 37 ปี คนขับรถโม่ปูนคันเกิดเหตุ เล่าว่า ขับรถบรรทุกปูนผสมเสร็จจะไปเทในพื้นที่ อ.ห้วยราช ที่มีการทำถนน แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งจู่ๆ ก็มีเสียงดังเหมือนอะไรหักที่ใต้ท้องรถ จากนั้นพวงมาลัยก็บังคับไม่ได้ และเบรกก็เหยียบไม่อยู่ ประกอบกับปูนผสมเสร็จมีน้ำหนักมากถึง 30 ตันจึงเอารถไม่อยู่ทำให้พุ่งชนบ้านพัง 2 หลัง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวคนขับไปสอบปากคำที่ สภ.ห้วยราช และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร่างกาย ซื้อเบื้องต้นไม่พบสารเสพติด และระดับแอลกอฮอล์ในร่างกาย แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากต้องรอผลตรวจร่างกายของผู้บาดเจ็บก่อนว่าเจ็บสาหัสหรือไม่