TPCH ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 30-40% และกำไรทำนิวไฮ หลังจ่ายไฟเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวลแม่ลาน ขณะที่โรงไฟฟ้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้พลิกขาดทุนเป็นกำไร พร้อมเร่งปิดดีล M&A โครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศคาดได้ข้อสรุปในไตรมาส 2-3 นี้
นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 30-40% และกำไรทำนิวไฮ เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,758 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 173 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้บริษัทมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล แม่ลาน จ.ปัตตานี กำลังการผลิตติดตั้ง 3 เมกะวัตต์ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 2.85 เมกะวัตต์ อัตราการรับซื้อไฟฟ้ารูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) อย่างต่ำ 3.88 บาทต่อหน่วย
รวมทั้งในปีนี้โครงการโรงไฟฟ้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะบันทึกเป็นกำไร เทียบกับปี 2565 ที่บันทึกขาดทุน ซึ่งหลังจากมีการปรับปรุงและบริหารจัดการ ทำให้ปีนี้จะบันทึกเป็นกำไรอย่างแน่นอน โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Adder) ราคารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT โดยโรงไฟฟ้าที่ปัตตานีมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 40% ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปีนี้บริษัทมีรายได้และกำไรเติบโตอย่างมาก
ขณะเดียวกัน บริษัทได้เข้าร่วมลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ สปป.ลาว โดยลงทุนผ่านบริษัท แม่โขง พาวเวอร์ จํากัด (MKP) ในสัดส่วน 40% โดย MKP ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) แล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 มีสัญญาขายไฟ 25 ปีนับจากวันที่ COD ซึ่งโครงการดังกล่าวจะ COD ในช่วงไตรมาส 2/2566 โดยมีผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ประมาณ 13-14%
นายเชิดศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าร่วมลงทุน หรือซื้อกิจการ (M&A) โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศอีกหลายโครงการทั้งพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงไตรมาส 2-3 ปีนี้
ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้น เพราะเมื่อรวมกำลังการผลิตจากโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ลาว 100 เมกะวัตต์ และการศึกษาโครงการโซลาร์ฟาร์มที่กัมพูชาอีกประมาณ 180 เมกะวัตต์ ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนหลังการเลือกตั้งในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ จะทำให้กำลังการผลิตรวมของบริษัทเติบโตเร็วกว่าเป้าที่ตั้งไว้ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 350 เมกะวัตต์ และจะขยายขึ้นเป็น 500 เมกะวัตต์ภายในปี 2568
ส่วนการลงทุนในประเทศไทย บริษัทจะเน้นลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะ ปัจจุบันบริษัทมีโครงการในมือแล้วรวม 10 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าเพิ่มอีก 40 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะ 5-7 โครงการ ภายใต้บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด (SP) ซึ่ง TPCH ถือหุ้นในสัดส่วน 50%
ปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าขยะที่ จ.นครราชสีมา จำนวน 2 โครงการ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังสนใจเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการ Quick Win) รอบใหม่อีกจำนวน 2 โครงการ แต่คงต้องรอการประกาศ TOR ในรัฐบาลใหม่ก่อน