ส.ส.เป็นธรรม มั่นใจ ปมประธานสภา เพื่อไทย-ก้าวไกล หาข้อสรุปได้ ไม่หวั่นโดนฟ้องยุบพรรค เหตุ จำลองประชามติแบ่งแยกปาตานี ยัน เป็นเพียงการเสนอความคิดเห็นเชิงวิชาการ
วันนี้ (23 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม (ปธ.) กล่าวถึงกรณีความเห็นข้อตกลงเรื่องประธานสภาระหว่างพรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ยังตกลงกันไม่ได้ ว่า ต้องปล่อยให้ 2 พรรคใหญ่พูดคุยกัน ส่วนตัวตนไม่ได้มีความหวั่นใจ เพราะอย่างไรพรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย (พท.) ต้องตกลงกันให้ได้อยู่แล้ว ส่วนความกังวลที่มี ส.ว.ออกมาแสดงความคิดเห็น ตนน่าจะเป็นตัวแทน 1 ใน 10 ล้านเสียง ว่า การเมืองครั้งใหม่ของเราจะสามารถพลิกโฉมการเมืองไทยให้ได้ ตนเชื่อมั่นว่า 14 ล้านเสียง เป็นแค่หนึ่งส่วนที่มอบให้พรรคก้าวไกล หากรวมจริงๆ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ตอนนี้เป็น 72 เปอร์เซ็นต์ ของประชาชนที่ออกมาเลือกตั้ง เพราะฉะนั้น 72 เปอร์เซ็นต์นี้ อยู่กับ 8 พรรคเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่น่าจะมีความกังวลอะไร
เมื่อถามว่า ล่าสุด มติของพรรค ปธ. ขับ 2 สมาชิกพรรคออก ได้มีการคุยถึงเหตุผลกันหรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า ไม่ใช่การขับออก แค่ออกจากตำแหน่งเท่านั้น ยังเป็นสมาชิกพรรค นายฮากิม-ยามารุดดิน อดีตรองเลขาธิการพรรค ยังคงเป็นกรรมการบริหารพรรคอยู่ ที่ออกไปเพราะช่วงนั้น เพราะมีคุณสมบัติไม่เหมาะสม
นายกัณวีร์ ยังกล่าวถึงการทำประชามติ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ไม่ใช่การทำประชามติ เป็นเพียงการทำแบบสอบถาม ที่ว่าจะไปทำประชามติดีหรือไม่ ที่จะเป็นการกำหนดชะตากรรมชีวิตตนเอง เพราะฉะนั้นต้องแยกให้ออก ไม่ใช่การทำประชามติเพื่อไปแบ่งแยกดินแดน ต้องให้เครดิตนักศึกษาด้วย เพราะปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ การปิดกั้น เราต่อสู้กับการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน เราจึงกำหนดการแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยที่เราต้องเปิดพื้นที่สาธารณะ ให้ประชาชนสามารถแสดงสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงออก แต่ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ตรงนี้คือจุดยืน เพราะฉะนั้นเราไม่กังวลที่จะมีการฟ้องร้องยุบพรรค หากเราดูจริงๆ เราทำงานภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ น้องๆ ทำภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ในวันนั้นเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นในเชิงวิชาการเท่านั้น และพื้นที่ที่แสดงความคิดเห็นเป็นพื้นที่สาธารณะในมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยควรเป็นพื้นที่สาธารณะโดยเฉพาะกับนักศึกษา ผู้ใหญ่ทุกท่านควรให้คำแนะนำว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ เป็นเพียงแบบสอบถาม-ตอบเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า ทางคณะทำงานสันติภาพชายแดนใต้ จะมีการหารือปรับความเข้าใจกับหน่วยงานความมั่นคงที่มีความกังวลในเรื่องนี้หรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า มีแน่นอน อย่างไรก็ตาม การทำนโยบายในเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนใต้ หรือการสร้างกระบวนการสรรค์สร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน เราต้องทำงานกับทุกฝ่าย ไม่ว่าความมั่นคง ประชาสังคม โดยเฉพาะการเจรจาสันติภาพจำเป็นที่จะต้องเจรจากับทุกฝ่าย การพูดคุยหารือสร้างสันติภาพ จำเป็นต้องรวมทุกคนเข้าร่วม ทุกองคาพยพจะต้องอยู่ด้วยกัน