ส.อ.ท.ยังคงเป้าการผลิตรถยนต์ปีนี้ที่ 1.95 ล้านคันจากยอดการส่งออกที่ 5 เดือนแรกเติบโต 17.09% ซึ่งสวนทางการจำหน่ายในประเทศ 5 เดือนแรกปีนี้ลดลง 4.91% โดยมองว่าเมื่อการเมืองนิ่งได้รัฐบาลแล้วน่าจะทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น ขณะที่ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงยังโตไม่หยุด
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงยอดการผลิตรถยนต์เดือน พ.ค. 66 มีทั้งสิ้น 150,532 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.48% ส่งผลให้ 5 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-พ.ค. 66) ยอดผลิตมีทั้งสิ้น 775,955 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.72% โดยเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก 445,746 คันเพิ่มขึ้น 27.04% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 330,209 คันเพิ่มขึ้น 1.38% โดยกลุ่มยานยนต์ส.อ.ท.ยังคงเป้าหมายการผลิตทั้งปี 2566 อยู่ที่ 1,950,000 คันแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก 1,050,000 คันและผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศที่ 900,000 คัน
“แม้ว่าตัวเลขการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศอาจจะยังไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่ควรนักเพราะส่วนหนึ่งมีปัญหาจากความเข้มงวดสถาบันการเงิน เพราะหนี้ครัวเรือนของไทยยังสูงทั้งจากราคาสินค้า อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่เราหวังว่าเมื่อการเมืองเริ่มชัดและจัดตั้งรัฐบาลได้ก็น่าจะทยอยดีขึ้นในครึ่งปีหลัง แต่ที่สำคัญที่ทำให้เราคงเป้าเพราะมีความหวังจากการส่งออกที่ยังคงเติบโตได้ดีอยู่และเศรษฐกิจคู่ค้าหลักยังมีทิศทางขยายตัว อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามเศรษฐกิจโลกใกล้ชิด” นายสุรพงษ์กล่าว
สำหรับยอดขายรถยนต์ในประเทศ พ.ค. 66 อยู่ที่ 65,088 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 0.55% เพราะรถยนต์นั่งที่เติบโตถึง 29.4% จากฐานต่ำในเดือนเดียวกันของปีที่แล้วจากการขาดชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพราะสงครามยูเครนและการล็อกดาวน์ของประเทศจีนจากโควิด - 19 แต่รถกระบะยังคงลดลงร้อยละ 23.3 จากการเข้มงวดของสถาบันการเงิน ส่งผลให้ 5 เดือนแรกปีนี้รถยนต์มียอดขาย 341,691 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกัน 4.91%
ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปพ.ค.66 อยู่ที่ 86,358 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 12.25 %เพราะฐานต่ำปีที่แล้วจากการขาดแคลนชิป จึงส่งออกเพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาดยกเว้นตลาดออสเตรเลียที่เข้มงวดเรื่องพันธุ์พืช แมลง และดินโครนที่ติดไปกับรถ ทำให้ท่าเรือแออัดขับรถขึ้นท่าเรือไม่ได้จนกว่าจะล้างสิ่งปนเปื้อนดังกล่าวที่ติดมากับรถยนต์ออกหมด เรือกลับมาบรรทุกรถยนต์ล่าช้าแต่เมื่อรวมการส่งออก 5 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 439,990 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.09% รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ 5 เดือนแรก 367,715.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.60%
นายสุรพงษ์ยังกล่าวถึงยอดจดทะเบียนใหม่ (ป้ายแดง) ของรถยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน (ในประเทศเดือน พ.ค. 66 อยู่ที่ 5,557 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถึง 991.75% และรวม 5 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-พ.ค. 66) อยู่ที่ 23,913 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1020.57% ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊กมีจำนวน 7,952 คัน เพิ่มขึ้น 49.25% รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมมีจำนวน 1,025 คัน ลดลง 2.47%
“ปีที่แล้วทั้งปียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่แค่ 9,000 กว่าคันปีนี้แค่ 5 เดือนมาอยู่ระดับ 23,913 คันแล้วผมเชื่อว่าถ้ามีรถยนต์ใหม่ๆ มาทำตลาดที่ราคาต่ำๆ เพิ่มอาจจะเห็นมากกว่า 50,000คันโดยอาจจะไปได้ถึง 60,000-70,000 คัน” นายสุรพงษ์กล่าว
