xs
xsm
sm
md
lg

ส่งออกลด-การเมืองไม่แน่นอนฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ พ.ค.วูบต่อเนื่องเดือนที่สอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ส.อ.ท.เผยดัชนีความเชื่อมั่น พ.ค. 66 อยู่ระดับ 92.50 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง กังวลการส่งออกของไทยที่ชะลอตัว และการเมืองที่ยังคงไม่แน่นอนหลังการเลือกตั้ง แนะเร่งจัดตั้งรัฐบาลใหม่เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2566 จากการสำรวจผู้ประกอบการจำนวน 1,327 รายครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. อยู่ที่ระดับ 92.5 ปรับตัวลดลงจาก 95.0 ในเดือนเมษายนปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของค่าดัชนีฯ พบว่าปรับตัวลดลงทุกองค์ประกอบ ทั้งดัชนีฯ คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า

สำหรับปัจจัยลบจากการส่งออกของไทยที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอนส่งผลให้อุปสงค์จากประเทศคู่ค้าลดลงขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนยังคงผันผวน นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังคงเผชิญกับปัญหาต้นทุนการผลิตที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะราคาพลังงาน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่ในทิศทางขาขึ้นส่งผลให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้น ปัญหาหนี้ครัวเรือนทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเมืองหลังเลือกตั้งที่ยังไม่แน่นอน และยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวทำให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนส่งผลดีต่อภาคการส่งออก

นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 104.3 ปรับตัวลดลงจาก 105.0 ในเดือนเมษายนเนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำของรัฐบาลใหม่ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนประกอบการของผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SMEs รวมทั้งทำให้การลงทุนจากต่างประเทศลดลง ขณะที่ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศและปัญหาภัยแล้งส่งผลต่อวัตถุดิบในอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร

นอกจากนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความผันผวนของเศรษฐกิจการเงินโลกยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทย ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ 1) ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นและความสามารถในการชำระหนี้ลดลง เช่น สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่อง การปรับโครงสร้างหนี้ การปรับเงื่อนไขการค้ำประกันสินเชื่อให้มีความยืดหยุ่นขึ้น

2) สนับสนุนให้ผู้ประกอบการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ฉบับต่างๆ เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างแต้มต่อให้กับสินค้าไทยและช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออก 3) เร่งให้มีการจัดตั้งคณะรัฐบาลใหม่เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น