xs
xsm
sm
md
lg

ศก.โลกพ่นพิษ! ส่งออกไทย เม.ย.ดิ่ง -7.6% วิจัยกสิกรฯ คาดทั้งปียังไม่ฟื้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ภาพการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย นำโดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น และมีความเสี่ยงอาจเผชิญกับภาวะถดถอยในบางไตรมาสของปีนี้ จะยังกดดันการส่งออกไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยเสี่ยงเชิงลบอื่นๆ เช่น ปัญหาภูมิรัฐศาตร์ที่ยังคงอยู่ ความผันผวนของค่าเงินในระยะข้างหน้า สภาพอากาศที่อาจไม่อำนวยต่อผลผลิตสินค้าเกษตร

อย่างไรก็ดี ยังมีสัญญาณเชิงบวกของการส่งออกไปตลาดจีนที่กลับมาขยายตัวได้ในเดือนเมษายน ประกอบกับปัจจัยฐานที่ลดลง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ที่อาจเห็นการกลับมาขยายตัวของการส่งออกได้ ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีมุมมองภาพรวมการส่งออกไทยในปี 2566 ยังคงติดลบที่ -1.2%

นอกจากนี้ ปัจจัยที่เข้ามาหนุนภาคการส่งออกไทย ท่ามกลางบรรยากาศการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่กดดันภาคการส่งออกของไทยอยู่ คือ ความตกลงทางการค้าเสรี (FTA) ซึ่งขณะนี้ไทยมีอยู่ทั้งสิ้น 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการส่งออกของไทยในช่วงที่ผ่านมา โดยในไตรมาสที่ 1/2566 สัดส่วนการใช้สิทธิ FTA อยู่ที่ 73.3% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.7%

ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงมองว่าทิศทางการค้าระหว่างประเทศของไทยจะเป็นอีกโจทย์สำคัญในการดำเนินนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะภาคการส่งออกของไทยที่มีแนวโน้มยังจะถูกกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ ซึ่งเป็นความท้าทายของรัฐบาลในอนาคตที่อาจจะเข้ามาสานต่อความสัมพันธ์ทางการค้าที่มีอยู่ในขณะนี้

โดยควรเร่งเจรจาจัดทำความตกลงเสรีทางการค้าที่มีอยู่ให้แล้วเสร็จ เช่น ตุรกี แคนาดา สหรัฐอาหรับเอมิรตส์ เป็นต้น และศึกษาเจรจา จัดทำความตกลงกับตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น สหภาพยุโรป (สัดส่วนการส่งออก 8%) และกลุ่มประเทศสมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอาหรับ หรือ GCC (สัดส่วนการส่งออก 3%)

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ รายงานการส่งออกของไทยเดือนเมษายน 2566 หดตัว 7.6% ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า 2566 บรรยากาศการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้กดดันการส่งออกไทยให้หดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ แม้มีปัจจัยฐานที่น้อยกว่าเดือนก่อนหน้าแต่ผลของอุปสงค์ที่ลดลงกลับกดดันการส่งออกไทยให้เผชิญกับการหดตัวมากขึ้น

โดยปัจจัยที่มีผลอย่างมากต่อการส่งออกในเดือนนี้ มาจากการส่งออกไปยังคู่ค้าสำคัญของไทยหดตัวเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกาหดตัว 9.6% ยุโรปหดตัว 8.2% และญี่ปุ่นหดตัว 8.1%

อย่างไรก็ตาม การส่งออกไทยยังมีปัจจัยบวกจากการส่งออกไปตลาดจีนที่กลับมาขยายตัวได้ในรอบ 10 เดือน ที่ 23% (YoY) โดยฉพาะการขยายตัวในกลุ่มสินค้าเกษตร เช่น ผลไม้สดและแช่แข็ง ไก่ ข้าว เป็นต้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากระบบขนส่งที่มีศักยภาพมากขึ้น ผ่านการขนส่งทางรถไฟระหว่างไทย-จีน ที่สามารถเอื้ออำนวยและลดระยะเวลาในการขนส่งสินค้าดังกล่าว ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ที่จะปัจจัยเชิงบวกให้การส่งออกไทยไปตลาดจีนปรับตัวดีขึ้นได้ต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น