xs
xsm
sm
md
lg

ส่งออกเม.ย.ลด 7.6% ติดลบ 7 เดือนติดต่อกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พาณิชย์”เผยส่งออก เม.ย.66 มูลค่า 21,723.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 7.6% ลบต่อเนื่อง 7 เดือนติดต่อกัน เหตุเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ระบุสินค้าอุตสาหกรรมลด 11.2% สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรเพิ่ม 8.2% รวมยอด 4 เดือนลบ 5.2% คาดเดือนต่อไปยังลด เหตุคู่ค้าสต๊อกสูง แต่จะเริ่มดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง ชี้เศรษฐกิจโลก เงินเฟ้อสูง ปัญหาสถาบันการเงิน ยังเป็นตัวกดดัน ชี้ตลาดจีน เริ่มดีขึ้น ภัยแล้งหนุนส่งออกสินค้าเกษตร มั่นใจทั้งปีโตได้ 1-2%

นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนเม.ย.2566 มีมูลค่า 21,723.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 7.6% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และฐานปีก่อนที่สูงมาก และเมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 737,788.3 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 23,195.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 7.3% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 797,372.7 ล้านบาท ขาดดุลการค้า มูลค่า 1,471.7 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 59,584.5 ล้านบาท รวมส่งออก 4 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-เม.ย.) การส่งออกมีมูลค่า 92,002.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 5.2% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 3,110,977.2 ล้านบาท นำเข้ามูลค่า 96,519.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 2.2% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 3,305,763.2 ล้านบาท ขาดดุลการค้า มูลค่า 4,516.0 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 194,786.0 ล้านบาท

สำหรับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ในเดือนเม.ย.2566 ลดลง 11.2% หดตัวต่อเนื่อง 7 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่ลดลง เช่น สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ส่วนสินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเครื่องใช้สำหรับเดินทาง เป็นต้น

ส่วนสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 8.2% ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้น เช่น ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง ข้าว เครื่องดื่ม ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ผักกระป๋องและผักแปรรูป นมและผลิตภัณฑ์นม ส่วนสินค้าที่ลดลง เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ยางพารา อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ อาหารสัตว์เลี้ยง

นายกีรติกล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกเดือนต่อไป คาดว่า จะยังติดลบอยู่ เนื่องจากสต๊อกสินค้าของประเทศคู่ค้ายังมีอยู่ ทำให้ชะลอการสั่งซื้อสินค้า แต่จะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนปัจจัยที่กดดันการส่งออก ยังคงเป็นเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอลง แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้หลายประเทศใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวดต่อไป และยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ปัญหาวิกฤตการเงินของธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯ และยุโรป และปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่สร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ การฟื้นตัวของตลาดจีนที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เป็นสัญญาณบวกต่อการส่งออกไทย ขณะที่ปัญหาความมั่นคงทางอาหารเกิดขึ้นในหลายประเทศที่ประสบปัญหาภัยแล้งจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยในปีนี้ และกระทรวงพาณิชย์ยังเป้าการส่งออกทั้งปีไว้ที่ขยายตัว 1-2%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การส่งออกเดือน เม.ย.2566 ที่ลดลง 7.6% เป็นการส่งออกติดลบต่อเนื่องมาเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือน ต.ค.2565 ที่ลดลง 4.4% พ.ย.2565 ลด 6% ธ.ค.2565 ลด 14.6% ม.ค.2566 ลด 4.5% ก.พ.2566 ลด 4.7% มี.ค.ลด 4.2%


กำลังโหลดความคิดเห็น