xs
xsm
sm
md
lg

“ไมเนอร์ ฟู้ด” ปลื้ม “เดอะพิซซ่า” โต 25% หลังรีแบรนด์ ครึ่งปีหลังเดินเกม The Game Changer ต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เดอะ พิซซ่า คอมปะนี อวดความสำเร็จ หลังรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 22 ปี โชว์รายได้ไตรมาส 2 โต 25% เดินหน้าสานต่อการเติบโตด้วยกลยุทธ์ The Game Changer ส่งมอบประสบการณ์ The Best Pizza Moment สร้างความประทับใจในการใช้บริการทุกครั้ง ควบคู่ไปกับการอัปเกรดเมนูหลักคู่กับการเปิดตัวเมนูพิซซาใหม่ๆ มั่นใจทั้งปีรักษายอดขายเติบโตไว้ที่ 25%

นายปัทม์ พงษ์วิทยาพิพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ รวมถึงตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เดอะ พิซซ่า คอมปะนี จึงได้ดำเนินการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 22 ปีพลิกโฉมสู่การเป็นผู้นำเกม หรือ “The Game Changer” และบริการที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเริ่มตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ด้วยการปรับเปลี่ยน ‘โลโก้ใหม่’ โดยใช้สีเขียวไอคอนิกที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความสนุกสนาน ให้แบรนด์ดูทันสมัยและเข้าถึงง่ายมากขึ้น

ขณะเดียวกัน เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ยังเดินหน้ากลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบ “The Best Pizza Moment” หรือโมเมนต์แห่งความสุขในทุกครั้งที่ได้รับประทานพิซซาให้แก่ผู้บริโภคให้ครอบคลุมกว่าเดิม รวมถึงการสร้างแบรนด์ลอยัลตีผ่านโปรแกรมสมาชิก รวมทั้งการพัฒนาร้าน กล่องพิซซาและกล่องดีลิเวอรีให้มีความทันสมัย ซึ่งทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค ทำให้ในส่วนช่องทางไดน์อินมีการเติบโตที่ 40% ส่วนช่องทางดีลิเวอรีที่เป็นจุดแข็งเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 27% ส่งผลให้ภาพรวมผลประกอบการของแบรนด์ในช่วงเดือนเมษายน และพฤษภาคม 2566 มีการเติบโตขึ้นราว 20%


“ตลาดฟาสต์ฟูดส์ยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดีอยู่ โดยเฉพาะตลาดพิซซา มูลค่า 10,000 ล้านบาท เดอะพิซซ่ามีแชร์ 70% เป็นผู้นำและขับเคลื่อนให้ตลาดเติบโต ซึ่งหลังจากเดอะ พิซซ่าได้รีแบรนด์และปรับกลยุทธ์เมื่อ ก.พ.ที่ผ่านมา มีการเก็บข้อมูลพบว่ามีลูกค้าใช้บริการมากขึ้น จาก Q1 อยู่ที่ 58% มาถึง Q2 เพิ่มเป็น 65% นอกจากนี้ยังมีการเก็บตัวเลขผู้ใช้บริการหน้าร้านเทียบกับคู่แข่ง ของเรายังโตกว่าคู่แข่ง และในช่องทางดีลิเวอรีที่แข็งแกร่ง ยังโต 27% จากภาพรวมติดลบ 1-2% ทำให้ภาพรวมยอดขายช่วง Q2 ถึงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาโต 25% ส่วนยอดการใช้จ่ายนั้นอยู่ที่ 500-550 บาทต่อบิลต่อครั้ง ต่างจังหวัดน้อยกว่านี้ราว 10-15% ซึ่งครึ่งปีหลัง เดอะ พิซซ่า ยังเดินหน้ากลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบ “The Best Pizza Moment” ให้แก่ลูกค้า เชื่อว่าทั้งปีจะยังคงรักษายอดขายไว้ได้ที่ 25%” นายปัทม์กล่าว

ด้านนางสาววิยะดา บูรณะภากรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า แผนการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังนี้ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี พร้อมดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ The Game Changer อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ The Best Pizza Moment ให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในทุกช่องทาง ทั้งการนั่งรับประทานที่ร้าน ซื้อกลับบ้าน หรือบริการส่งถึงบ้าน ซึ่งครอบคลุมในทุกมิติ ประกอบด้วย


1. New Membership Program : เปิดตัวบัตรสมาชิก The Pizza Club ครั้งแรก! บัตรสมาชิกที่มาพร้อมความอร่อยคุ้มและสิทธิพิเศษมากมายให้ได้ฟินทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น รับฟรีทันที ปีกไก่ 4 ชิ้น เมื่อสมัครบัตรครั้งแรก รวมถึงรับสิทธิ์ซื้อพิซซา 1 แถม 1 ได้ตลอดอายุการใช้งานของบัตร และโปรโมชันพิเศษทุกวันพุธ ตลอดจนรับสิทธิ์ส่วนลด 10% ทุกวัน ที่สำคัญสามารถใช้ได้หลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นรับประทานที่ร้านหรือซื้อกลับ ในราคาเพียง 399 บาท เท่านั้น จากปัจจุบันมีสมาชิก 2.3 ล้านคน ถึงสิ้นปีตั้งเป้าโตอีก 15%

2. New Design : เดินหน้าปรับดีไซน์ภาพรวมให้มีความทันสมัยมัดใจลูกค้า ทั้งในส่วนการตกแต่งร้านให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์การรีแบรนด์ใหม่ ซึ่งจะดำเนินการครอบคลุมกว่า 100 สาขาทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดโฉมกล่องดีลิเวอรีแบบใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมแสง LED โดดเด่นสะดุดตาทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน เป็นการสร้างจุดสนใจและความประทับใจแก่ลูกค้าที่พบเห็น สะท้อนบุคลิกใหม่ของแบรนด์ให้เป็นที่จดจำในวงกว้าง โดยพร้อมนำร่องให้บริการ 9 คันแรก ในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ ที่เดอะ พิซซ่า คอมปะนี สาขา ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ

นอกจากนี้มีแผนเปิดสาขาใหม่ 40 สาขา เฉลี่ยลงทุน 6-10 ล้านบาท/ สาขา ซึ่งกว่า 50% เป็นดีลิเวอรี ฟอร์แมต และอีก 50% เป็นร้านที่มีที่นั่งและดีลิเวอรีรวมกัน โดยจะเปิดทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดเท่าๆ กัน ซึ่งได้เปิดไปแล้ว 3 สาขา ครึ่งปีหลังจะทยอยเปิดให้ครบ หรือสิ้นปีนี้จะมีจำนวนสาขาทั้งหมด 452 สาขา

3. New Core Menu : สร้างความโดดเด่นให้กับเมนูหลัก พร้อมรังสรรค์เมนูพิซซาสุดพิเศษต่อเนื่อง โดยแบรนด์ได้ปรับสูตรเมนูพิซซาหลักให้มีท็อปปิ้งชิ้นใหญ่ขึ้น ปริมาณมากขึ้นอิ่มอร่อยจุใจกว่าเดิม พร้อมนำเสนอเมนูที่มีความพรีเมียมมากขึ้น ตลอดจนการรังสรรค์เมนูพิซซาพิเศษรูปแบบใหม่ๆ ล่าสุดกับแคมเปญ The Shabu Company ครั้งแรกของพิซซาหน้าหมูชาบูและเนื้อชาบู ที่สร้างกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์อย่างมาก และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในหมู่ผู้บริโภค

4. New Service Model : พลิกโฉมผู้นำเกมบริการรอบด้าน ครอบคลุมการให้บริการอันยอดเยี่ยมของพนักงานในทุกช่องทาง เพื่อส่งมอบความประทับใจในทุกขั้นตอน อันเป็นส่วนหนึ่งในการดึงดูดให้ผู้บริโภคกลับมาใช้บริการซ้ำ รวมทั้งการจัดกิจกรรมพิเศษมากมายตลอดปีที่ให้ลูกค้าทุกวัยได้มีส่วนร่วม
กำลังโหลดความคิดเห็น