ผู้จัดการรายวัน 360 - “ไมเนอร์ฟู้ด” ขยายพอร์ตอาหารในไทย ส่งแบรนด์ใหม่เข้าตลาดรวดเดียว 4 แบรนด์ ทั้งที่ซื้อมาจากต่างประเทศและที่พัฒนาขึ้นเอง หวังผลักดันรายได้รวมปีนี้เติบโต 20%
นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจของ ไมเนอร์ ฟู้ด ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ผลประกอบการของไมเนอร์ฟู้ดเป็นไปในทิศทางบวก โดยไตรมาสแรกมีรายได้ 7,700 ล้านบาท คาดว่าปลายปีจะมีรายได้ 31,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 17-20% จากปีที่แล้ว ซึ่งช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาทำรายได้สถิติสูงสุดของไมเนอร์ด้วย เช่น เบอร์เกอร์คิง แดรี่ควีน ทำยอดขายได้สูงสุดตลอดกาล
ทั้งนี้ ไมเนอร์ยังคงมีการลงทุนขยายสาขาต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปิดแบรนด์ใหม่เข้าสู่ตลาดเมืองไทย รวมทั้งการปรับหรือรีแบรนด์ในแบรนด์เดิมเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปและการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งปีนี้ทั้งปีคาดว่าจะมีการเปิดสาขาใหม่ทั้งแบรนด์เก่าแบรนด์ใหม่รวมกันมากกว่า 200 สาขา จากปัจจุบันที่มีแบรนด์มากกว่า 30 แบรนด์ทั่วโลก ขณะที่ในไทยจะเน้นไปที่แบรนด์หลักประมาณ 8-9 แบรนด์ เช่น เดอะพิซซ่าคอมปะนี สเวนเซ่นส์ ซิซซ์เลอร์ บอนชอน เบอร์เกอร์คิง แดรี่ควีน คอฟฟี่เจอร์นีย์ เดอะคอฟฟี่คลับ เป็นต้น และมีมากกว่า 2,540 สาขาทั่วโลก ซึ่งอยู่ในไทยประมาณ 75% หรือ มากกว่า 1,900 สาขา
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวใหม่อย่างเป็นทางการอีก 4 แบรนด์ เข้าสู่ตลาดประเทศไทย ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ไมเนอร์ซื้อกิจการและเป็นเจ้าของนานแล้วในต่างประเทศ พิจารณาที่จะนำเข้ามาในตลาดไทยแต่ต้องดูความเหมาะสมในหลายประการ บางแบรนด์ก็พัฒนาขึ้นมาเอง
โดย 4 แบรนด์ใหม่ประกอบด้วย 1. ร้านพูเลท์ (Poulet) ร้านอาหารตะวันตกสไตล์คลาสสิกคอมฟอร์ตฟูดชื่อดังในประเทศสิงคโปร์ ที่เปิดตัวสาขาแรกในประเทศไทย ณ ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา เตรียมขยายสาขาที่ 2 ณ ห้างสรรพสินค้า เมกา บางนา ในช่วงเดือนมิถุนายน และสาขาที่ 3 ในช่วงเดือนตุลาคมปีนี้
2. ร้านริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช (Riverside Grilled Fish) ร้านอาหารจีนต้นตำรับ สไตล์ฉงชิ่ง ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งในประเทศจีนและสิงคโปร์ สาขารวมกว่า 140 แห่ง เป็นร้านอาหารที่มีศักยภาพที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งในเครือ ไมเนอร์ ฟู้ด ทั้งนี้ ร้านริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช มีกำหนดเปิดสาขาแรก ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 6 ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม และจะเปิดสาขาสองที่เซ็นทรัลพระรามเก้าเดือนสิงหาคมนี้
3. ร้านกาก้า (GAGA) อีกหนึ่งร้านเครื่องดื่มและชานมไข่มุกแบรนด์ดังของคนไทยที่ไมเนอร์ซื้อกิจการมาแล้วได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในพอร์ตโฟลิโอ ไมเนอร์ ฟู้ด เมื่อช่วงปลายปี 2565 โดยกาก้าเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งในตัวที่สามารถขยายการเติบโตได้ดี ปัจจุบันกาก้ามีทั้งหมด 32 สาขาในไทย โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดให้ครอบคลุมมากกว่า 40 สาขา รวมถึงวางแผนการขยายสาขาใหม่ในต่างประเทศอีกด้วย
4. ร้านฟรายส์ (FRY’s) อีกหนึ่งร้านไฮไลต์น้องใหม่ในเครือไมเนอร์ ฟู้ด กับ “ฟรายส์” ที่แตกไลน์มาจาก เดอะ พิซซ่า คอมปะนี โดยพัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งจะเข้ามาเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอของเครือฯ ในกลุ่มอาหารว่างและอาหารกินเล่น เปิดเป็นแบบคีออสก์ ในขั้นต้นจะดำเนินธุรกิจในโมเดล Shop in Shop ก่อนจะขยับขยายกิจการให้ดำเนินในรูปแบบ Stand-alone เปิดจุดขายแรกที่ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ปีนี้จะเปิดอีก 4 สาขา
“การดำเนินธุรกิจนี้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ 3 ปี เพื่อผลักดันธุรกิจกลับสู่การเติบโตแบบเต็มรูปแบบ หรือ “Back to Growth” ผ่านการดำเนินธุรกิจของแต่ละแบรนด์ในเครือ ไม่ว่าจะเป็น การยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ร้านอาหารในเครือ ควบคู่ไปกับกลยุทธ์การตลาดต่างๆ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย การพัฒนาแพลตฟอร์ม Loyalty Program ตลอดจนการคิดค้นเมนูอาหารและแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไมเนอร์ ฟู้ด มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ” นายธันยเชษฐ์กล่าว
