กรมการค้าภายในชี้แจงภาวะการผลิตการค้าไข่ไก่ พบผลผลิตลดลงจากสภาพอากาศร้อน ทำให้แม่ไก่กินอาหารได้น้อย ออกไข่ได้น้อยลง และฟองเล็ก แต่ล่าสุดสถานการณ์เริ่มเข้าสู่ปกติหลังอากาศเย็น ราคาเริ่มลดลง คาด ก.ค.นี้เป็นปกติ ย้ำดูแลผู้บริโภคต่อเนื่อง นำไข่ราคาถูกขายผ่านโมบายล์พาณิชย์
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากข่าวราคาไข่ไก่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น กรมการค้าภายในได้มีการติดตามสถานการณ์การผลิตและภาวะการค้าไข่ไก่ในตลาด ทั้งระดับค้าส่งและค้าปลีกใกล้ชิด รวมถึงได้หารือร่วมกับผู้เลี้ยงมาโดยตลอด พบว่าปริมาณไข่ไก่ปัจจุบันเริ่มปรับเข้าสู่ภาวะสมดุลจากช่วงก่อนหน้านี้ โดยปริมาณไข่ไก่ขณะนี้ออกสู่ตลาดประมาณ 43 ล้านฟอง/วัน เพียงพอต่อการบริโภคที่เฉลี่ยประมาณ 41.5 ล้านฟอง/วัน ซึ่งไม่มีปัญหาการขาดแคลนแต่อย่างใด
ส่วนสถานการณ์ด้านผลผลิต พบว่ามีผลจากสภาวะอากาศร้อนจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ส่งผลให้ไก่กินอาหารได้ลดลง ออกไข่ขนาดเล็กลง จากเดิมไข่ไก่ขนาดใหญ่ เบอร์ 0 จากเดิมสภาพอากาศปกติ จะมีไข่เข้าตลาดในสัดส่วน 15% ของไข่ทั้งหมด ปัจจุบันอากาศร้อนจัด เหลือเพียง 5% เบอร์ 1 จากเดิม 25% เหลือ 15% ไข่ขนาดเล็ก-กลาง (เบอร์ 3-5) จากเดิมมีเพียง 30% แต่ตอนนี้มีเพิ่มขึ้นถึง 50% ส่วนไข่ไก่เบอร์ 2 ยังคงสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 30% ซึ่งจะเห็นได้ว่าไข่จิ๋วเบอร์ 5 ที่เดิมมีน้อยมาก กลับมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น แต่จากสภาวะอากาศที่ดีขึ้น เนื่องจากมีฝนตกมากขึ้น คาดว่าจะทำให้สัดส่วนไข่ไก่น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงประมาณ 2-3 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณไข่ไก่เบอร์ใหญ่เพิ่มขึ้น และราคาจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
สำหรับสถานการณ์ราคาไข่ไก่ปัจจุบันยังอยู่ภายใต้โครงสร้างราคาที่กรมการค้าภายในกำกับดูแล โดยราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเฉลี่ยอยู่ที่ฟองละ 3.80 บาท และไข่ไก่เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 4.08 บาท
นายวัฒนศักย์กล่าวว่า ในเบื้องต้นกรมฯ ได้เชื่อมโยงไข่ไก่จากฟาร์มขนาดย่อยมาจำหน่ายผ่านรถโมบายล์ธงฟ้า และห้างท้องถิ่น เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และได้ประชุมร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยง เพื่อช่วยเหลือในด้านปัจจัยการผลิตและสภาพคล่องให้แก่ผู้เลี้ยงอีกทางหนึ่ง รวมทั้งได้ให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ตรวจติดตามราคาและการจำหน่ายไข่ไก่อย่างใกล้ชิด ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคา รวมทั้งกำกับดูแลการปิดป้ายแสดงราคาโดยเคร่งครัด
ทั้งนี้ หากพบเห็นว่ามีการกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และหากตรวจสอบพบการกระทำผิดจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ