กรมรางตรวจไซต์ก่อสร้างรถไฟฟ้า
"สีชมพู" เร่งแก้ปัญหาทางขึ้น-ลงสถานี "แจ้งวัฒนะ 14 (PK11) ถึงโทรคมนาคมแห่งชาติ (PK13)" ล่าช้า แนะเปิดบริการช่วง "หลักสี่-มีนบุรี" ก่อน ชี้เชื่อมสีแดง, สีเขียว เพิ่มความสะดวกให้ ปชช.
วันที่ 30 พ.ค. 66 นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางราง ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้าง พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และส่วนต่อขยายช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี เพื่อรวบรวมและหารือแนวทางแก้ไขให้สามารถเปิดให้บริการได้โดยเร็ว
นายอธิภูกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ติดตามการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูเพื่อเตรียมเปิดให้บริการ พบว่ามีประเด็นปัญหา ช่วงสถานีแจ้งวัฒนะ 14 (PK11) ถึงสถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ (PK13) ที่ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างทางขึ้น-ลง (ฝั่งขาออกมุ่งหน้าแยกแคราย) ได้ เนื่องจากติดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับโครงการของหน่วยงานอื่น ทำให้การก่อสร้างล่าช้า
กรมการขนส่งทางรางได้มีข้อเสนอในการเปิดให้บริการบางส่วนก่อน เช่น จากสถานีหลักสี่ ถึงสถานีมีนบุรี เพื่อเป็น Feeder ให้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียว และรถไฟชานเมืองสายสีแดง รวมถึงบรรเทาปัญหาจราจรแออัด
อย่างไรก็ตาม การเปิดเดินรถนั้น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ต้องประเมินความเป็นไปได้ทั้งด้านเทคนิค ด้านความปลอดภัย และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทาง
นอกจากนี้ กรมรางฯ ได้ติดตามการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช ถึงเมืองทองธานี ระยะทาง 3.2 กิโลเมตร จำนวน 2 สถานี ได้แก่ สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี (MT01) ตั้งอยู่บริเวณวงเวียนอิมแพ็คฯ และสถานีทะเลสาบเมืองทองธานี (MT02) ตั้งอยู่บริเวณข้างทะเลสาบเมืองทองธานี ใกล้ธันเดอร์โดม โดยเมื่อโครงการฯ แล้วเสร็จเชื่อว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางมาเที่ยวชมงานแสดงหรือการแข่งขันกีฬาที่จัดขึ้น และช่วยลดปริมาณการจราจรบนท้องถนนบริเวณนี้ได้อย่างมาก
ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีความคืบหน้า ณ เม.ย. 66 กว่า 96.43% ในเส้นทางหลัก และ 20.41% ในช่วงส่วนต่อขยาย โดยกรมรางจะเร่งผลักดันให้เปิดให้บริการได้โดยเร็ว อย่างน้อยในเส้นทางหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนที่ต้องการเดินทางมาติดต่อราชการหรือธุระต่างๆ ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าถนนแจ้งวัฒนะไปจนถึงถนนรามอินทรา ถือเป็นถนนที่มีการจราจรติดขัดสูงเป็นลำดับต้นๆ ของถนนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ที่เปิดให้บริการแล้ว กำลังจะเปิดให้บริการ หรือกำลังก่อสร้างอยู่นั้น จะมีส่วนช่วยในการลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน ลดการจราจรติดขัด รวมทั้งลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ได้