รฟท.แจงจ่ายค่าเวนคืน 100%แล้ว กรณีเข้ารื้อถอนอาคารบ้านเรือน 8 หลัง ที่หมู่บ้านประชาสุข 6 จ.ฉะเชิงเทรา ตามพ.ร.ฎ.เวนคืนพื้นที่ก่อสร้าง”ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน” ยืนยันดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย และยึดหลักมนุษยธรรม ธรรมาภิบาล
วันที่ 5 เม.ย. 2566 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีเข้ารื้อถอนอาคารบ้านเรือนบริเวณหมู่บ้านประชาสุข 6 จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเวนคืนสร้างรางรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินว่า ในการดำเนิน โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. มีการออกแบบให้มีพื้นที่ก่อสร้างส่วนใหญ่อยู่ในเขตรถไฟเดิม เพื่อลดผลกระทบการเวนคืนที่ดินต่อประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณพื้นที่โดยรอบ
ซึ่ง การรถไฟฯ มีเหตุจำเป็นในการประกาศพระราชกฤษฎีกา การรถไฟฯ ทำการเวนคืนที่ดินเพิ่มเติมทั้งหมด 11 จุด เนื้อที่ 919 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด 403 หลัง ซึ่งปัจจุบัน ได้ทำการรื้อถอนตามสัญญาเวนคืนฯ แล้ว 395 หลัง ยังเหลืออาคารของประชาชนและบริษัทนิติบุคคลที่ยังไม่รื้อถอนที่อยู่ในหมู่บ้านประชาสุข 6 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จำนวน 8 หลัง
และเพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนในเรื่องนี้ ที่ผ่านมาการรถไฟฯ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่กำหนดราคาอสังหาริมทรัพย์เบื้องต้นและเงินค่าทดแทนเพื่อดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งอาศัยอำนาจตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 โดยมีนายอำเภอเมืองฉะเชิงเทราเป็นประธานกรรมการ มีผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง ธนารักษ์พื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา สำนักประเมินราคาทรัพย์สิน เจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาลาดกระบัง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา นายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 6 ตำบล และเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ทำหน้าที่ร่วมกันพิจารณาราคาค่าที่ดิน รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เหมาะสม พร้อมกับคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม และความพึงพอใจของประชาชนเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ ทำให้ประชาชนเจ้าของที่พักอาศัย และบริษัทนิติบุคคล บริเวณหมู่บ้านประชาสุข 6 จ.ฉะเชิงเทราดังกล่าว ได้ตกลง และยินยอมเข้ามาทำสัญญารับเงินค่าที่ดินส่วนที่ถูกเวนคืน ซึ่งเป็นการรับเงินค่าที่ดินซื้อทั้งแปลงไม่ใช่ซื้อแค่บางส่วน และค่าทดแทนเพิ่มเติมกรณีมีการพัฒนาพื้นที่ไปแล้วทุกราย 100% รับเงินค่าทดแทนโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง ค่าทำสัญญา ค่าทดแทนไม้ยืนต้นและพืชผล เงินเพิ่มร้อยละสอง โดยทั้งหมดได้รับเงินไปแล้ว 75% ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2565 เป็นต้นมา โดยได้ใช้วิธีคำนวณหลักเกณฑ์การถอดแบบก่อสร้าง ราคาค่าวัสดุ ครุภัณฑ์ต่างๆ ค่าแรงในการก่อสร้างตามมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์ ค่าแรงในการก่อสร้าง คำนวณจากมาตรฐานของกรมบัญชีกลาง
ที่สำคัญทั้ง 8 ราย ยังได้ดำเนินการโอนโฉนดที่ดิน อาคารสิ่งปลูกสร้างให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟฯ เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2565 โดยจำนวนเงินทดแทนตามสัญญาที่การรถไฟฯ ได้จ่ายให้กับประชาชน และบริษัทนิติบุคคล อยู่ระหว่าง 3,080,461 – 4,489,729 บาทต่อราย
ดังนั้น การรถไฟฯ ขอยืนยันว่า การเข้ารื้อถอนอาคารดังกล่าว เป็นการเข้ารื้อถอนทรัพย์สินของการรถไฟฯ เองโดยชอบธรรม และก่อนที่จะเข้ามาทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออก ได้มีการแจ้งติดใบประกาศภายในหมู่บ้านมาก่อนหน้านี้ ตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2562
นอกจากนี้ หากนับเวลาตั้งแต่วันที่มีการชำระเงินค่าเวนคืนให้กับชาวบ้านและบริษัทนิติบุคคล รวมทั้งการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน อาคารสิ่งปลูกสร้างให้เป็นของการรถไฟฯ เรียบร้อยแล้วนั้น การรถไฟฯ ก็ให้เวลาในการรื้อย้ายเกือบ 10 เดือน ประกอบกับการรถไฟฯ ก็มีความจำเป็นที่ต้องเร่งส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนคู่สัญญาร่วมลงทุน เร่งดำเนินการปรับสภาพเส้นทางรองรับการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินให้เป็นไปตามสัญญา ภายในกำหนดเดือนพฤษภาคม 2566
ท้ายนี้ขอย้ำว่า การรถไฟฯ ได้ดำเนินการโดยยึดหลักมนุษยธรรม ธรรมาภิบาล เพื่อความถูกต้อง โปร่งใส ตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย ควบคู่กับประโยชน์ในการพัฒนาประเทศเป็นสำคัญ