ผู้จัดการรายวัน 360 - “จีดีเอช” อัดงบมากกว่า 200 ล้านบาท ลุยฉายหนัง 4 เรื่อง ซีรีย์ 1 เรื่อง พร้อมรียูเนียนไปกับ “แฟนฉัน” ครบรอบ 20ปี และปิดท้ายด้วยงาน GDH FUN FEST มั่นใจรายได้ปีนี้อย่างต่ำน่าจะทำได้ 510 ล้านบาท จากปีก่อนปิดไป 504.9 ล้านบาท พร้อนลุ้นรายได้สู่ 1,000 ล้านบาทหากมีหนังติดลมบน
นางสาวจินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด เปิดเผยว่า ปี2566นี้ยอมรับว่าโจทย์ในการทำหนังถือว่ายาก เพราะปัจจุบันหนัง/ซีรีย์ เป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ คนดูเปลี่ยนไป พฤติกรรมเปลี่ยน จากเดิมหนังต้องดูในโรง แต่ปัจจุบันคนดูมีตัวเลือกมากมาย คนรุ่นใหม่มีช่องทางในการรับชมหลากหลาย จะทำอย่างไรกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งจีดีเอชพร้อมปรับตัวผสมผสานการทำงานให้ตอบโจทย์คนดู โดยเฉพาะกับฐานเดิม และกลุ่มคนดูใหม่ๆ ต้องปรับไลฟ์สไตล์การทำงาน ทำให้เกิดมาตรฐานใหม่ ที่สำคัญต้องดึงดูดคนดูให้ออกมาดูหนังในโรงให้ได้
“หลังโควิดคลี่คลาย คนดูเริ่มกลับมาดูหนังในโรงแล้ว 50% แต่จะทำอย่างไรให้กลับมาดูเพิ่มขึ้น ถือเป็นโจทย์ยากของการทำหนังหลังจากนี้ เหตุเพราะพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เพราะสิ่งสำคัญที่จะทำให้คนกลับมาดูหนังในโรงนั้น คือ คอนเท้นต์สำคัญที่สุด ต้องหาจุดขาย สร้างแรงจูงใจให้ได้ รวมถึงคอนเท้นต์นั้นต้องเข้าถึงทั้งความเป็นแมสและนีช และการดึงพันธมิตรเข้ามาช่วย ก็เป็นอีกส่วนสำคัญของกลยุทธ์การทำหนังในวันนี้”
สำหรับ จีดีเอช พร้อมต่อสู้กับความท้าทายดังกล่าว และมองการทำหนังในวันนี้มากกว่าการวางเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 100 ล้านบาทอย่างที่ผ่านมา แต่มองถึงช่องทางสร้างรายได้อื่นๆด้วย จากที่ต้องการให้เป็นกระแสในไทย จากนี้มุ่งให้หนังเข้าถึงในวงกว้างมากขึ้น เช่น เข้าฉายในต่างประเทศไปพร้อมกับในไทย ที่สำคัญเพิ่มช่องทางเข้าถึงและช่องทางสร้างรายได้ใหม่ๆเข้ามา เห็นได้จากปีที่ผ่านมา จีดีเอช ปิดรายได้ที่ 504.9 ล้านบาท โต 95% จากหนัง 3 เรื่อง และเฉพาะเรื่อง บุพเพสันนิวาส 2 ทำรายได้ทั่วประเทศได้กว่า 392.73 ล้านบาท และขึ้นแท่นหนังไทยทำเงินสูงสุดตลอดกาลที่ประเทศเวียดนาม ด้วยรายได้กว่า 3.2 ล้านดอลลาร์
ปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ มาจาก 4 ส่วน คือ 1.รายได้จากการฉายในโรงภาพยนตร์ และตามสายหนัง 30% 2.ขายหนังไปตลาดต่างประเทศ 20-25% 3.ลิขสิทธิ์หนัง/ช่องทางออนไลน์ 20-25% และ4.จัดจำหน่ายหนังทั้งของเราเองและพันธมิตร
อย่างไรก็ตามในปีนี้มองว่าภาพรวมตลาดภาพยนตร์จะกลับมาที่ 3,000 ล้านบาท และเป็นหนังไทยถึง 700 ล้านบาท ใกล้เคียงหรือเท่ากันก่อนเกิดโควิด เพราะมีรายชื่อหนังไทยเตรียมเข้ารวมฉายกว่า 40 เรื่อง เทียบกับปี 2565 ภาพรวมตลาดภาพยนตร์มีมูลค่า 2,128 ล้านบาท แบ่งเป็น ต่างประเทศ 1,700 ล้านบาท และไทย 428 ล้านบาท โดยมีหนังไทยเข้าฉายกว่า 40 เรื่อง
ทั้งนี้ 3-4 ปีย้อนหลังช่วงเกิดโควิด พบว่า ในปี 2564 ภาพรวมตลาดภาพยนตร์มีมูลค่า 1,100 ล้านบาท แบ่งเป็นต่างประเทศ 900 ล้านบาท และไทย 182-200 ล้านบาท โดยมีหนังไทยเข้าฉาย 18 เรื่อง, ปี 2563 ภาพรวมตลาดภาพยนตร์มีมูลค่า 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นต่างประเทศ 700 ล้านบาท และไทย 300 ล้านบาท โดยมีหนังไทยเข้าฉาย 28 เรื่อง และปี 2562 ก่อนเกิดโควิด ภาพรวมตลาดภาพยนตร์มีมูลค่า 4,600 ล้านบาท แบ่งเป็นต่างประเทศ 3,900 ล้านบาท และไทย 700 ล้านบาท โดยมีหนังไทยเข้าฉาย 45 เรื่อง
นางสาวจิน่า กล่าวต่อว่า สำหรับในปีนี้ จีดีเอช พร้อมใช้งบลงทุนราว 200 กว่าล้านบาท ในการเดินหน้าผลิตคอนเท้นต์พรีเมียมเพิ่มการร่วมทุน หวังส่งหนังไทยไปตลาดโลก เชื่อว่าน่าจะมีรายได้รวมเข้ามาไม่ต่ำกว่า 510 ล้านบาท และหากกระแสตอบรับดีสำหรับหนังบางเรื่อง โดยเฉพาะการเข้าไปบุกตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดอเมริกาและยุโรปในปีนี้ โอกาสที่จะได้เห็นรายได้ถึง 1,000 ล้านบาท ก็มีความเป็นไปได้สูง
โดยแผนการดำเนินงานในปี 2566 จะมีหนังเข้าฉาย 4 เรื่อง ได้แก่ 1. 'เธอกับฉันกับฉัน’ ซึ่งกระแสตอบรับดีมากทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยในไทยทำรายได้ 60 ล้านบาทแล้ว 2. หนังผีเขย่าขวัญ ‘บ้านเช่า..บูชายัญ' ร่วมกับ เอ็นเอท สตูดิโอ พาร์ทเนอร์ที่จะมาช่วยเรื่องการจัดจำหน่ายหนังไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในอเมริกาและยุโรป กำกับโดย จิม โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ นำแสดงโดย เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ, มิว นิษฐา จิรยั่งยืน และต่าย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล ฉาย 6 เมษายนนี้ในโรงภาพยนตร์
3. เดือนพฤศจิกายน หนังวัยรุ่นเรื่อง 'เพื่อน(ไม่)สนิท' ร่วมกับ Houseton Films กำกับโดยผู้กำกับน้องใหม่ อัตต้า อัตตา เหมวดี นำแสดงโดย โทนี่ อันโทนี่ บุยเซอเรท์ 4. 'PROJECT D' (WorkingTitle) เป็นหนังเกี่ยวกับ LGBTQ+ นำแสดงโดย พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร และอิงฟ้า วราหะ กำกับโดย บอส นฤเบศ กูโน และ5.ในปี 2567 เปิดตัวที่โปรเจกต์หนัง 'THE CHINESE FAMILY' (Working Title) กำกับโดย พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ นำแสดงโดย นักแสดงสุดฮอต บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล
นอกจากนี้ช่วงกลางปี จะโปรเจกต์ซีรีส์ร่วมกับ Netfix 1 เรื่อง คือ 'DELETE' ดาร์กถึงใจชาวเน็ต ผลงานโปรดิวซ์และกำกับโดย โอ๋ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ นำแสดงโดย ไอซ์ซ๊ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์, ณัฏฐ์ กิจจริต และฟ้า ษริกา สารทศิลป์ศุภา จากนั้นในเดือนตุลาคม จะเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 20 ปี 'แฟนฉัน' โดยจะมีการรีมาสเตอร์หนังใหม่และหกผู้กำกับแฟนฉันจะร่วมกันทำคอนเทนพิเศษ เพื่อเป็นของขวัญให้แฟนๆ สุดท้ายช่วฃปลายปี จะมีการจัดงาน 'GDH FUN FEST ด้วยวบที่ใช้อีกราว 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นอีเวนต์ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นของขวัญให้แฟนๆ ทั้ง GTH และ GDH ตลอด 20ปีที่ผ่านมา.
