นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 21 มีนาคม ของทุกปี จะเป็นวันป่าไม้สากล ซึ่งประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติทุกประเทศ เห็นพ้องต้องกันในการกำหนดให้เป็นวันสำคัญเพื่อเฉลิมฉลองและสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของป่าทุกประเภทและต้นไม้ที่อยู่นอกป่า เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นปัจจุบัน และอนาคตได้ใช้ประโยชน์จากป่าอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคป่าไม้ต่าง ๆ ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับป่าและต้นไม้
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในปี 2566 นี้ องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดประเด็นหลักของวันป่าไม้สากล คือ “Forests and health.” หรือ ป่าไม้และสุขภาพ โดยสุขภาพที่สดใสสร้างได้ด้วยป่าที่สมบูรณ์ เช่น ทำให้น้ำบริสุทธิ์ ทำให้อากาศบริสุทธิ์ ป่าไม้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยการเก็บกักคาร์บอน ป่าไม้ยังให้ยารักษาโรคที่ช่วยชีวิต และปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ทุกคนต้องดูแลป่าไม้ เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่สดใสสร้างได้ด้วยป่าที่สมบูรณ์
“ดังนั้น เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันป่าไม้สากล ประจำปี 2566 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ จึงกำหนดจัดกิจกรรมวันป่าไม้สากลขึ้น ในวันที่ 22 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. ณ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ บริเวณคุ้งบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การเสวนา การแจกกล้าไม้ให้แก่ผู้มาร่วมงาน ได้นำไปปลูกที่บ้าน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว การแสดงดนตรีในสวน การจัดแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวกับป่าไม้ พร้อมกันนี้ ผู้มาร่วมงานยังจะได้เยี่ยมชมความงามของพื้นที่สีเขียวคุ้งบางกะเจ้า ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวในเมืองกรุง ปอดของคนกรุงเทพฯ อีกด้วย”อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมการเสวนา ถือว่ามีความน่าสนใจมาก โดยกำหนดจัดงานภายใต้หัวข้อ “Forests and health.” หรือ ป่าไม้และสุขภาพ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน อีกทั้งวิทยากรที่เข้าร่วมการเสวนาประกอบด้วยทั้งผู้แทนไทย และผู้แทนจากสวีเดน ที่จะมาแลกเปลี่ยนมุมมอง นวัตกรรมภาคการป่าไม้กับสุขภาพ ในประเด็นต่าง ๆ อาทิ การดูแลรักษาป่าอนุรักษ์, ป่าไม้เพื่อการนันทนาการ และสุขภาพของประชาชน, อาคารไม้ในเมืองใหญ่ สถาปัตยกรรมอาคารไม้ นวัตกรรม เป็นต้น ดังนั้น กรมป่าไม้จึงขอเชิญชวนผู้สนใจทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรมในวันเวลาดังกล่าว เพื่อมาสัมผัสด้วยตนเองว่า ป่าไม้และสุขภาพ อยู่กับเราทุกคน