รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.อนุมัติพื้นที่ 3 ตำบล ใน อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น 53,726 ไร่ ออกจากป่าไม้ถาวร และเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี
วันนี้ (14 มี.ค.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2533 เรื่อง การจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดขอนแก่น (เฉพาะแห่ง) และผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4000 (One Map) พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า กรณีการทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2533 เรื่อง การจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดขอนแก่น (เฉพาะแห่ง) นั้น ในวันนี้จึงมีการทบทวน มติ ครม.ดังกล่าว ดังนี้ คือ เรื่องการจำแนกประเภทที่ดินออกจากป่าไม้ถาวร คือ 1. อนุมัติให้จำแนกพื้นที่ที่ราษฎร 3 ตำบล ใน อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เนื้อที่ประมาณ 53,726 ไร่ ออกจากป่าไม้ถาวร เพื่อให้ราษฎรทำกินหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่น (เป็นไปตามข้อเสนอเดิมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) และ 2. กรณีการจำแนกพื้นที่ที่กันออกจากการกำหนดเป็นป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือเขตที่เพิกถอน ให้ถือว่าเป็นพื้นที่ที่ได้จำแนกออกจากป่าไม้ถาวร โดยใช้เป็นหลักการครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สำหรับกรณีการแก้ไขปัญหากรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี (กรณีเร่งด่วน) ครม.มีมติเห็นชอบตามแนวทางการแก้ปัญหาตามมติคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ในคราวประชุมครั้งที่ 1/66 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ให้ดำเนินการปรับปรุงแผนที่ One Map กรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับซ้อน กับเขตปฏิรูปที่ดินให้ยึดเส้นแนวเขตของ ส.ป.ก. และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทาง และมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินรับเรื่องไปพิจารณากรณีพื้นที่นอกแนวเขตที่กรมป่าไม้ส่งมอบให้ ส.ป.ก. ดำเนินการ ว่าควรใช้แนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมอย่างไร และมติในคราวประชุมครั้งที่ 2/66 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 ให้ดำเนินการดังนี้
1. แนวทางการใช้เส้นการสำรวจแนวเขต ปี 2543 ในการปรับปรุงแผนที่ One Map พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน และให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมป่าไม้ ส.ป.ก. จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลพื้นที่ของจุดที่ไม่ชัดเจนให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และเร่งรัดดำเนินการสำรวจเพื่อจัดทำแนวกันชน (Buffer Zone) ที่ชัดเจน เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของพื้นที่มรดกโลก และสภาพพื้นที่ป่าไม้ ภายหลังจาก ครม. เห็นชอบ
2. กำหนดแนวทางการคุ้มครองการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ที่ได้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย และการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยไม่เกี่ยวข้องหรือมีผลต่อรูปคดีความต่างๆ ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมและการพิจารณาของศาลแต่อย่างใด
3. ในการดำเนินงานในพื้นที่ที่กันออกจากเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมป่าไม้ส่งมอบพื้นที่ให้ ส.ป.ก. ดำเนินการจัดที่ดินให้ประชาชนอยู่อาศัยทำกินตามแนวทาง คทช. โดยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และระเบียบ สำหรับพื้นที่ผนวกเพิ่มเป็นอุทยานประมาณ 110,000 ไร่ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป
4. การดำเนินงานของภาครัฐในการประกาศหวงห้ามเขตที่ดินของรัฐ ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบและมีส่วนร่วมในการดำเนินการของภาครัฐ และหากประชาชนอยู่ในที่ดินของรัฐ ก็ควรเร่งรัดให้เกิดการพิสูจน์สิทธิตามมาตรการที่ คทช. กำหนด และให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 41 เรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ ในประเด็นที่ระบุว่า รัฐจะไม่นำพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย และป่าอนุรักษ์ตามมติ ครม. ไปดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพิ่มเติมด้วย
“โดยที่ประชุม ครม. ยังได้มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาอันเนื่องมาจากการปรับปรุงแผนที่ One Map ทั้ง 2 กรณี อย่างรอบคอบ รวมทั้งให้ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ระเบียบ และมติ ครม. ที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง ครบถ้วน ต่อไปด้วย” น.ส.ทิพานัน กล่าว